ปตท.จับมือ ADNOC บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี นับเป็นก้าวหนึ่งที่ ปตท.ได้ร่วมเป็นผู้ประกาศราคาน้ำมันดิบและยังช่วยเพิ่มความโปร่งใสในด้านราคาและบริหารความเสี่ยงการจัดหาน้ำมันดิบให้กลุ่มโรงกลั่น ปตท.ในต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ เตรียมเสนอบอร์ดอนุมัติจัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งที่ฮุสตัน สหรัฐอเมริกา คาดลดแรงกดดันจากการเกินดุลสหรัฐฯ
นายดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.ได้ลงนามสัญญากับเป็นพันธมิตร Abu Dhabi National Oil Co.(ADNOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และ Intercontinental Exchange (ICE) หนึ่งในตลาดน้ำมัน Futures ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ร่วมกับ 8 บริษัทชั้นนำของโลก คือ บีพี เชลล์ โททาล Vital JXTG, GS Caltex ที่ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ในการเปิดตัว ICE Futures Abu Dhabi (IFAD) ตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าในเอเชีย คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาสแรกปี 2563
โดยเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายน้ำมันดิบเมอร์เบิน (Murban crude) ล่วงหน้าที่มีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัลมาใช้ มี ICE เป็นผู้โอเปอเรตแพลตฟอร์มดังกล่าว
การลงนามสัญญาดังกล่าวนับเป็นก้าวหนึ่งของ ปตท.ในการเป็นพาร์ตเนอร์กับ ADNOC ทำให้ ปตท.ได้ร่วมเป็นผู้ประกาศราคาน้ำมันดิบในแพลตฟอร์มดังกล่าว และทำให้เกิดความโปร่งใสในด้านราคาและยังช่วยบริหารความเสี่ยงในการนำเข้าน้ำมันดิบป้อนกลุ่มโรงกลั่นของ ปตท.ทำให้มีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ และยังทำให้ธุรกิจเทรดดิ้งของ ปตท.เข้าสู่เป้าหมายการเป็น Global Trading ขยายพอร์ตการค้าให้เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน ปตท.มีการซื้อขายน้ำมันดิบจาก UAE คิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของการทำเทรดดิ้ง ปตท.อยู่แล้ว
นายดิษทัตกล่าวต่อว่า ปตท.เตรียมเสนอคณะกรรมการบริษัท ปตท.เพื่ออนุมัติการจัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งที่ฮุสตัน สหรัฐอเมริกาในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า เพื่อทำหน้าที่เทรดดิ้งน้ำมันเหมือนกับการตั้งบริษัทเทรดดิ้งที่สิงคโปร์และลอนดอนก่อนหน้านี้ เนื่องจากสหรัฐฯ กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และมาตรการ IMO ทำให้ ปตท.ต้องหันมานำเข้าน้ำมันดิบเบาที่มีกำมะถันต่ำเพื่อป้อนให้โรงกลั่นเพราะตรงกับสเปกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ส่งออกสู่ตลาดโลก โดยตั้งเป้าหมายจะค้าขายจากตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
จากปัจจุบันพอร์ตเทรดดิ้งของ ปตท.มาจากตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 10 ที่เหลือมาจากตะวันออกกลางร้อยละ 70 และตะวันออกไกลร้อยละ 20 และตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขายจากตลาดสหรัฐฯ ในปี 2563-2564 เพิ่มจากปัจจุบัน 7 หมื่นบาร์เรล/วันเป็น 1 แสนบาร์เรล/วัน คาดยอดขายจะเพิ่มจาก 3 หมื่นล้านบาท/ปี เป็นกว่า 8 หมื่นล้านบาท/ปี ซึ่งจะทำให้ ปตท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันธุรกิจเทรดดิ้งมีสัดส่วนในรายได้ของ ปตท.ถึงประมาณร้อยละ 25-30
ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวได้ประกาศตัวใน ADIPEC 2019 หนึ่งในงาน Conference น้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์วานนี้ (11 พ.ย) ตลาด IFAD นี้มีจุดประสงค์ที่จะเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายน้ำมันดิบในภูมิภาคเอเชีย และทาง ICE และ ADNOC มีความตั้งใจที่จะพยายามสร้างให้น้ำมันดิบเกรด Murban ของ UAE นี้ให้กลายเป็นเกรดพื้นฐานหรือเป็น Benchmark ใหม่ของตลาดเอเชียต่อไป จากที่ผ่านมาตลาดสำคัญคือ WTI แห่งสหรัฐอเมริกา และ Brent ประเทศอังกฤษ