xs
xsm
sm
md
lg

ชาวไร่อ้อยยื่น “บิ๊กตู่” ทวงค่าอ้อยพันบาท/ตัน หวังตัดอ้อยสดลดปัญหาฝุ่น PM 2.5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชาวไร่อ้อยทั่วประเทศเตรียมยื่นหนังสือถึง “บิ๊กตู่” ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดวันนี้ (21 ต.ค.) เรียกร้องขอให้หามาตรการดูแลราคาอ้อยให้ได้ 1,000 บาทต่อตันจากราคาปัจจุบันที่ส่อแววจะตกต่ำเพียง 700 บาทต่อตัน หวังผลักดันการตัดอ้อยสดลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ตามมติ ครม.ที่ต้องประเดิมในฤดูผลิตแรก

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และหัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อยเขต 7 เปิดเผยว่า วันนี้ (21 ต.ค.) สถาบันและสมาคมชาวไร่อ้อยจะยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเหลือราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 62/63 ที่คาดว่าจะตกต่ำระดับ 700 บาทต่อตันให้ได้ระดับราคา 1,000 บาทต่อตันที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่เคยระบุไว้

“เวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 21 ต.ค.เป็นกิจกรรมที่สถาบันชาวไร่อ้อยหรือสมาคมฯ ชาวไร่อ้อยในจังหวัดต่างๆ ยื่นผ่านผู้ว่าฯ จังหวัดนั้นๆ เพื่อส่งต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็เคยระบุที่จะช่วยเหลือยกระดับราคาอ้อยให้ได้ระดับสูง 1,000 บาทต่อตัน ซึ่งล่าสุดได้รายงานถึงการดำเนินงานในเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว” นายนราธิปกล่าว


ทั้งนี้ แนวโน้มราคาอ้อยฤดูผลิตปี 62/63 คาดว่าจะอยู่ที่ไม่เกิน 700 บาทต่อตันเนื่องจากระดับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกตกต่ำและค่าเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งถือเป็นราคาที่ตกต่ำต่อเนื่องมา 3 ปี จึงต้องการให้รัฐหามาตรการช่วยเหลือให้ได้ระดับราคา 1,000 บาทต่อตัน ส่วนจะเป็นมาตรการใดนั้นก็คงอยู่ที่นโยบายรัฐ โดยในฤดูผลิตที่ผ่านมารัฐบาลได้ช่วยเหลือด้วยการใช้งบประมาณจากรัฐมาช่วยเหลือปัจจัยการผลิต

นายนราธิปกล่าวว่า มาตรการที่จะช่วยเหลือราคาอ้อยเบื้องต้นจากการหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมเองมีแนวนโยบายที่จะสนับสนุนการตัดอ้อยสดเพื่อลดการเผาอ้อยในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ซึ่งหากได้ราคาอ้อยระดับ 1,000 บาทต่อตันก็จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากต้องยอมรับว่ารถตัดอ้อยมีราคาสูงการเข้าถึงของชาวไร่อ้อยยังมีเพียงบางส่วนเท่านั้น ดังนั้นส่วนหนึ่งยังต้องอาศัยแรงงานคนในการตัดอ้อยสดซึ่งต้องจ่ายค่าแรงที่แพงขึ้น

ทั้งนี้ มาตรการในการลดการเผาอ้อยตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 11 มิ.ย. 62 ได้กำหนดให้ฤดูการผลิตปี 2562/2563 โรงงานน้ำตาลจะรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกินร้อยละ 30 ต่อวัน ฤดูการผลิตปี 2563 /2564 โรงงานน้ำตาลจะรับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบได้ไม่เกินร้อยละ 20 ต่อวัน และในฤดูการผลิตปี 2564/2565 จะลดปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบเพียงร้อยละ 0-5 ต่อวัน ซึ่งจะทำให้อ้อยไฟไหม้หมดไปภายในภายใน 3 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น