“สนธิรัตน์” เผยแผน AEDP 2018 จ่อขยับโรงไฟฟ้าชุมชน 400 เมกะวัตต์ ให้เร็วขึ้นมาอยู่ในช่วง 3 ปีแรก (ปี 63-65) หวังแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง คาดรายละเอียดจะสรุปเร็วนี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.)อยู่ระหว่างการปรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2018) พ.ศ. 2561-2580 ให้สอดรับกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP 2018) คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้ โดยแผนดังกล่าวจะขยับการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้เร็วขึ้นโดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากขยะชุมชนจำนวน 400 เมกะวัตต์ในปี 2563-2565
“สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญคือการแก้ไขปัญหาขยะเพราะวันนี้มีปัญหามากกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนเราจึงได้มีการขยับแผนให้เร็วขึ้นจากเดิมจะอยู่ในช่วงกลางๆ แผนก็จะให้ทยอยเข้าระบบภายในปี 2565 ทั้งหมด” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับราคารับซื้อนั้นคณะทำงานอยู่ระหว่างการศึกษาอัตราที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีมติเดิมที่มีการส่งเสริมการรับซื้ออยู่แล้วแต่จะนำมาปรับให้สอดรับกับปัจจุบัน โดยโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชนนั้นแม่งานหลักจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน ภายใต้แผน AEDP 2018 ดังกล่าวยังจะเน้นส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนซึ่งจะเป็นการผสมผสานเชื้อเพลิงจากวัสดุเหลือใช้จากภาคการเกษตร ปลูกพืชพลังงาน และพลังงานแสงอาทิตย์ที่จะมีข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้เช่นกันซึ่งจะคนละส่วนกับโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นคงจะต้องรอผลการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับจัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้เป็นสำคัญ
“โรงไฟฟ้าถ่านหินขณะนี้ยังคงไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเพราะยังต้องรอผลสรุปการศึกษาซึ่งตามแผนพีดีพีก็ไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจนไว้อยู่แล้ว” นายสนธิรัตน์กล่าว