xs
xsm
sm
md
lg

Taboola ผนึก Outbrain แข่งโฆษณาเฟซบุ๊กและกูเกิล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Taboola (ทาบูลา) และ Outbrain (เอาต์เบรน) แพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลชั้นนำ ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงควบรวมกิจการ ทั้งนี้ การซื้อขายจะเสร็จสิ้นเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ทั้งนี้ กรรมการบริหารของทั้งสองบริษัทได้อนุมัติการทำรายการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังการควบรวม บริษัทจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการโฆษณาและเข้าถึงนักการตลาดทั่วโลก อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนองค์กรสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์ดิจิทัลให้สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิผลต่อไปในอนาคต การควบรวมครั้งนี้ทำให้บริษัทเข้าถึงผู้คนกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน และสนับสนุนสื่อสารมวลชนทั่วโลก โดยทั้งสองบริษัทตกลงทำธุรกรรมทั้งแบบเงินสดและหุ้น

“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผมชื่นชมเอาต์เบรน และนวัตกรรมที่ยารอน กาไล และโอริ ลาฮาฟ รวมถึงทีมงานของเอาต์เบรนนำเสนอมาโดยตลอด การผนึกกำลังกันครั้งนี้ทำให้เราเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของเฟซบุ๊กและกูเกิล อีกทั้งยังเป็นทางเลือกที่มีนัยสำคัญต่อผู้โฆษณา” อดัม ซิงโกลดา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของทาบูลากล่าว

ทั้งนี้ ข้อมูลจากอีมาร์เกตเตอร์ (eMarketer) ระบุว่า 70% ของรายได้จากการโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลในสหรัฐอเมริกาในปี 2562 อยู่ในมือของผู้เล่นหลักเพียง 3 ราย ได้แก่ กูเกิล เฟซบุ๊ก และแอมะซอน

“เรามุ่งมั่นผลักดันการเติบโตให้แก่ลูกค้าของเราและสนับสนุนโอเพนเว็บ ซึ่งเราเห็นว่าจำเป็นสำหรับโลกใบนี้ที่มีสภาพแบบสวนปิด (walled garden) ซึ่งผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างจำกัดภายใต้สภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุม และบางครั้งกำแพงที่ปิดกั้นนั้นก็แข็งแกร่งมากเกินไป การร่วมมือกันครั้งนี้เรายังคงเดินหน้าลงทุนในการทำให้เม็ดเงินโฆษณาทุกบาททุกสตางค์ไปถึงองค์กรสื่อและผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่วงการสื่อสารมวลชนในทศวรรษหน้า และนั่นคือเหตุผลที่เกิดการควบรวมกิจการครั้งนี้และพันธกิจของเรา”

“เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพันธมิตรกับทาบูลา ทั้งเอาต์เบรนและทาบูลามีพันธกิจและวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสนับสนุนการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพในระดับสากลและส่งมอบคุณค่าต่อตลาดโอเพนเว็บ” ยารอน กาไล ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วม เอาต์เบรนกล่าว โอริและผมมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ผู้คนค้นพบคอนเทนต์ออนไลน์ที่มีคุณภาพ เรามองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการร่วมมือกับทาบูลาเพื่อสร้างคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่สำหรับผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้โฆษณาที่เป็นพันธมิตรของเรา ผมมั่นใจว่า ด้วยความร่วมมือครั้งนี้เราจะสามารถสานต่อพันธกิจของเราที่เรียกว่าไลต์เฮาส์ (Lighthouse) เพื่อนำความสามารถในการค้นพบคอนเทนต์ที่ดีที่สุดและเชื่อถือได้ไปยังผู้ใช้งานทั่วโลก”

จนกว่าการควบรวมกิจการจะเสร็จสิ้น อดัม ซิงโกลดา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอคนปัจจุบันของทาบูลา จะยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอของบริษัทหลังควบรวมกิจการ ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้ชื่อการค้าทาบูลา ทั้งนี้ ชื่อการค้าจะได้รับการพิจารณาเพื่อสะท้อนถึงการควบรวมของทั้งสองบริษัทต่อไป อนึ่ง ภายใต้เงื่อนไขในสัญญาการควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นเอาต์เบรนจะได้รับหุ้น 30% ของบริษัทหลังควบรวมกิจการและเงินสดมูลค่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.63 ล้านล้านบาท) กรรมการบริหารของบริษัทหลังควบรวมกิจการจะประกอบไปด้วยทีมบริหารและกรรมการจากทั้งทาบูลาและเอาต์เบรน อัลดาด มานีฟ ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของทาบูลา และเดวิด โคสต์แมน ซีอีโอร่วมของเอาต์เบรนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการบริหารงานทุกมิติภายหลังการควบรวมกิจการ ส่วนยารอน กาไล จะยังคงมีส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จของบริษัทต่อไป และสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทอย่างแข็งขันในช่วงการเปลี่ยนผ่านไปเป็นระยะเวลา 12 เดือนจนกว่าการควบรวมจะแล้วเสร็จ

“เราโชคดีที่มีทีมงานที่มีความสามารถจากทั้งเอาต์เบรนและทาบูลา” อัลดาด มานีฟ กล่าว “ทันทีที่การควบรวมเสร็จสิ้น เราจะดำเนินการเพื่อบูรณาการทีมงานต่างๆ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในทุกมิติ เราได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายไว้เพื่อส่งมอบคุณค่าต่อลูกค้า ขับเคลื่อนนวัตกรรมเทคโนโลยี และผลงานทางการเงินต่อผู้ถือหุ้นผ่านประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและนวัตกรรม การทำงานร่วมกับเดวิด และทีมงานจากเอาต์เบรน ผมมั่นใจว่าจะสามารถประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างแน่นอน”

“นับเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีที่ทั้งสองบริษัทได้สร้างสรรค์โซลูชันที่ทรงพลังและน่าทึ่ง เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้โฆษณาหลายหมื่นรายสามารถเติบโตได้” เดวิด โคสต์แมน กล่าว ผมตั้งตารอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับอัลดาดและทีมของเขาเพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์โอเพนเว็บให้น่าสนใจและเป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากกูเกิลและเฟซบุ๊ก”

บริษัทหลังควบรวมกิจการจะมีพนักงานมากกว่า 2,000 คนในสำนักงาน 23 แห่ง ดูแลลูกค้ากว่า 20,000 รายในกว่า 50 ประเทศทั่วทั้งอเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิก

กลยุทธ์ที่น่าสนใจและเหตุผลทางการเงินสำหรับการควบรวมกิจการ

ประโยชน์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของการควบรวมกิจการมีดังต่อไปนี้ :

เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้โฆษณา : การควบรวมบริษัทจะทำให้สามารถบริการผู้โฆษณา ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก ด้วยทางเลือกในการแข่งขันที่มีนัยสำคัญต่อกูเกิลและเฟซบุ๊ก - บริษัทซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ “ผู้แข่งขันเพียงสองรายในตลาด หรือ Duopoly” ในปัจจุบัน และเป็นผู้ควบคุมการใช้จ่ายโฆษณาดิจิทัลส่วนใหญ่

ประสิทธิภาพการโฆษณาที่เหนือกว่า : แพลตฟอร์มการซื้อแบบรวมเป็นหนึ่งเดียวจะทำให้ผู้โฆษณาได้รับประสิทธิภาพที่ดีกว่า ช่วยพวกเขาบรรลุเป้าหมายด้านสร้างการรับรู้ การพิจารณาเลือก และตัดสินใจซื้อ

รายได้ที่เพิ่มขึ้นและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานกับผู้ผลิตคอนเทนต์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมและผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ : ด้วยการลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นและการขยายการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่รวมกันนั้นจะสามารถเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ผลิตคอนเทนต์ ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้ผลิตอุปกรณ์ รวมถึงขับเคลื่อนให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานที่ดีขึ้น

การเร่งนวัตกรรม : ด้วยการรวมทีมงานที่แข็งแกร่งที่สุดด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ในอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน และการเร่งการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา จะทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของคู่ค้าและลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

สร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้แก่ผู้บริโภค : โซลูชันของทาบูลาและเอาต์เบรนถูกรวบรวมเข้าด้วยกันโดยตรงโดยผู้บริโภคเพื่อช่วยให้พวกเขาค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ในช่วงเวลาที่พวกเขาพร้อมจะค้นหาสิ่งใหม่ๆ เช่น ปัจจุบันนี้ Taboola News ได้รวมอยู่ในอุปกรณ์แอนดรอยด์กว่า 60 ล้านเครื่องทั่วโลก การควบรวมบริษัทนี้จะสามารถเร่งการพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม พัฒนาความสามารถของผู้คนในการเพลิดเพลินกับการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น