มิสออร่า (MAI) เผยธุรกิจการประกวดไทยยังรุ่ง ด้วยเม็ดเงินสะพรั่งกว่า 500 ล้านบาท กางแผนธุรกิจปี 2563 เดินหน้าจัดประกวดนางงามเต็มกำลัง ขยายเวทีต้อนรับผู้เข้าประกวดนานาชาติ หนุนเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวไทย พร้อมเตรียมแตกไลน์ธุรกิจต่อยอดศักยภาพสาวงามรุ่นใหม่สู่ระดับโลก ตั้งเป้าโตเท่าตัว และขึ้นแท่นผู้จัดการประกวดอันดับหนึ่งในภูมิภาค
นางสาวปวีณา บำรุงรส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสออร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MAI) เปิดเผยว่า ธุรกิจประกวดนางงามในไทยมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี สินค้าต่างๆ ที่จะเป็นสปอนเซอร์เริ่มที่จะพิจารณาการสนับสนุนอย่างเข้มงวดมากขึ้น หรือไม่ก็ลดงบประมาณสปอนเซอร์ลงส่วนหนึ่งกว่า 30% ส่งผลให้เวทีการประกวดนางงามใหญ่ๆ หายไปอย่างน้อย 3-5 เวทีแล้ว
นอกจากนั้น ผู้ประกอบการที่ยังทำอยู่ก็ต้องมีการปรับกลยุทธ์ เช่น การลดปริมาณการจัดงานลงบ้าง การลดขนาดของงานลงไม่ใหญ่มากเหมือนในอดีต แต่จะจัดให้อยู่ในสเกลหรือระดับที่พอจะสร้างรายได้กลับคืนมาได้ ขณะเดียวกันต้องพยายามที่จะต่อยอดขยายธุรกิจต่อเนื่องเพื่อเป็นโอกาสในการสร้างรายได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเวทีประกวดนางงามเป็นโมเดลธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนไหลเข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การโฆษณา สปอนเซอร์ การโหวตผ่านเครือข่ายสื่อสาร และสื่อโซเชียลมีเดีย โดยคาดว่าในแต่ละปีมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ MAI ที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 35% จากปี 2561 และประสบความสำเร็จบนเวทีการประกวดระดับนานาชาติมากมาย รวมถึงได้ขยายธุรกิจด้วยการเปิดตัว “MAI MULTI TALENT 2019” ในปี 2562 นี้ ซึ่งเป็นบริษัทน้องใหม่ภายในเครือ บริษัท มิสออร่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MAI) ที่ดำเนินธุรกิจการประกวดนางงามระดับอินเตอร์เพื่อเฟ้นหาคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ
“ในปี 2562 นี้เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากเวทีการประกวดนางงาม นายแบบ และนางแบบ ทั้งไทยและระดับนานาชาติ กับ 4 โปรเจกต์สุดยิ่งใหญ่ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ได้แก่ Mrs. Thailand 2019, Mrs. Tourism Queen International 2019, Miss Tourism Queen International 2019 ซึ่งถือได้ว่าเป็นเวทีต้นแบบของผู้หญิงที่เป็นหนึ่งด้านความคิด และความงาม สวยตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ภายใต้ลิขสิทธิ์แห่ง ERM Thailand และเวทีการประกวด “T-AM” (ที-แอม) หรือ Thailand Tourism Ambassador ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งถือเป็นเวทีการประกวดเฟ้นหากลุ่มคนต้นแบบคนรุ่นใหม่เพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวไทยเชิงอัตลักษณ์อย่างแท้จริง
นอกจากนั้น เรายังประสบความสำเร็จจากการจัดเวทีการประกวดบุคคลที่มีศักยภาพด้านต่างๆ (Talent) ได้แก่ การประกวดดีไซเนอร์รุ่นใหม่ เพื่อนำชุดมาใช้ในการประกวดรอบสุดท้าย ซึ่งช่วยส่งเสริมผ้าไทยและเศรษฐกิจไทยต่อไป ด้านเวทีการประกวด Mrs. เราก็ได้มีการประกวดออกแบบมงกุฎ ที่จะใช้เป็นมงกุฎประจำกองประกวด ในรูปแบบที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นไทยและใช้วัสดุในประเทศ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไทยด้านอัญมณีไทย และโชว์ฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก” ปวีณากล่าว
ในปี 2563 “MAI MULTI TALENT 2019” ยังคงเดินหน้ารุกธุรกิจเวทีการประกวดอย่างเต็มกำลัง เพื่อหนุนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย และต่อยอดศักยภาพสาวงามรุ่นใหม่สู่ระดับโลก โดยตั้งเป้าการเติบโตปี 2562 และปี 2563 ที่ 30% คาดรายได้กว่า 40-60 ล้านบาท และตั้งเป้าเติบโตขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง จากแผนการขยายเวทีในระดับนานาชาติ และจากการแตกไลน์ธุรกิจเวทีนางงามในด้านต่างๆ
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2563 ของ MAI จะเตรียมจัดการประกวดเวทีระดับโลกที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ได้แก่ Mrs. Thailand, Mrs. Tourism Queen International, Miss Tourism Queen International, T-AM 2020, IMOTY International Model of the Year และ World Top Model ซึ่งจะมีการปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาการประกวดที่ทันสมัยมากกว่าที่เคย โดยมุ่งเน้นไปที่ศักยภาพของผู้เข้าประกวด ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างหน้าตา บุคลิภาพที่โดดเด่น มีทัศนคติบวก เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ และความสวยงามในแบบของตนเอง โดยจะมีการนำสื่อโซเชียล และเทคโนโลยีการโหวตที่ล้ำสมัยมาใช้ในการประกวด เพื่อนำเสนอเรื่องราวของผู้เข้าประกวด และสร้างชื่อเสียงให้กับเวทีการประกวดได้กว้างยิ่งขึ้น เช่น การโปรโมตการท่องเที่ยวไทยผ่านการเล่าเรื่องของผู้เข้าประกวด (Story Telling) และโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Youtube Channel, Official Fanpage Facebook และช่องทางของผู้เข้าประกวดไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Instagram
นอกจากนั้น ยังได้วางแผนแตกไลน์ธุรกิจจากการเวทีการประกวด เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านบุคลากรที่มีความเทียบเท่ากับต่างประเทศ ด้วยการผลักดันให้คนไทยได้ก้าวเข้าสู่ระดับสากล และเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับอินเตอร์เนชันแนล แผนธุรกิจที่วางไว้ เช่น MAI Fashion Styling โปรเจกต์ที่จะพานางงามทุกประเทศไปทำกิจกรรมในแต่ละจังหวัด เพื่อเป็นการโปรโมตประเทศไทย, MAI TALENT AGENCY โปรเจกต์ผลักดันนางแบบและนายแบบเข้าสู่สังกัดระดับอินเตอร์เนชันแนลในแต่ละประเทศ เชน ยุโรป และสหรัฐอเมริกา รวมถึง Fashion Showcase & Live Merchant, Fashion Organization และ New International Brand from Europe
“เรายังมองว่าการประกวดไม่ใช่เป็นเพียงแค่การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะเท่านั้น แต่เรายังเล็งเห็นว่าสามารถต่อยอดในสายธุรกิจบันเทิงและการท่องเที่ยวได้อีกด้วย ซึ่งตลาดไทยมีศักยภาพสำหรับธุรกิจการจัดเวทีการประกวดนางงามอย่างมาก โดยธุรกิจการประกวดนางงามของเราจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้กลายเป็นอันดับหนึ่งของโลก ผ่านเนื้อหาการประกวดของเรา ในการพาผู้เข้าประกวดเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของไทย และโปรโมตประเทศไทยให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างสู่สากล” ปวีณากล่าวปิดท้าย