อาร์เอสชี้ธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าจับมือพันธมิตรผลิตสินค้า เร่งเครื่องเสริมกลยุทธ์ Story Telling โดยทุ่มงบ 50 ล้านบาท เตรียมเข็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเฮลท์แอนด์บิวตี้ดันยอดขายช่วยไตรมาสสุดท้าย และทะยานสู่หมื่นล้านในปี 2565
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “กลุ่มธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง MPC (Multi-platform Commerce) เติบโตต่อเนื่อง สร้างรายได้เป็นสัดส่วนหลักถึง 60% ให้กลุ่มอาร์เอส ภายใต้กลุ่มธุรกิจไลฟ์สตาร์ (Lifestar) ที่มุ่งผลิตสินค้าสุขภาพและความงามคุณภาพระดับโลกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าเฮลท์แอนด์บิวตี้ (Health and Beauty) กลุ่มสินค้าโฮมแอนด์ไลฟ์สไตล์ (Home and Lifestyle) กลุ่มสินค้าเครื่องประดับ (Accessories) กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และแก็ดเจ็ต (Electronic & Gadget)
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ของธุรกิจ MPC ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่จากการขยายแพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าเจาะเข้าถึงดาต้าเบสผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งจากช่อง 8, ช่องไทยรัฐทีวี และวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่า 20 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ www.shop1781.com, LINE@shop1781, LINE@COOLanything รวมถึงผ่าน LifestarBIZ หรือตัวแทนขายตรง
หลังจากโยนบิ๊กล็อตให้กับกลุ่มบีทีเอส ดาต้าเบสของทั้ง 2 บริษัท จะมีฐานลูกค้าพุ่งถึง 35 ล้านคน แบ่งเป็นฐานลูกค้าของอาร์เอส อายุ 35 ปีขึ้นไป และฐานลูกค้าของกลุ่มบีทีเอสจะเป็นกลุ่ม 35 ปีลงมา ซึ่งไม่ทับซ้อนกับกลุ่มเดิม และแผนธุรกิจที่บริษัทมองโอกาสร่วมกับกลุ่มบีทีเอสจะเกิดใน 2 มิติ คือ การ Synergy นั่นคือกลุ่มบีทีเอสจะทำหน้าที่เป็นอีกช่องทางขาย นอกจากช่องทางเดิมที่อาร์เอสมีอยู่แล้ว และต่อยอดธุรกิจ MPC เดิมของอาร์เอสในกลุ่ม Health & Beauty เดิมและพัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกัน ซึ่งจะเห็นภาพที่ชัดเจนในปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายเพิ่มจำนวน Telesales ที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญ เพื่อรองรับการซื้อซ้ำของผู้บริโภค รวมทั้งให้บริการคำปรึกษาแนะนำธุรกิจตลอด 24 ชั่วโมง จากปัจจุบันมีอยู่กว่า 500 ราย และจะมีการเพิ่มขึ้นตามจำนวนการสั่งซื้อ ซึ่งบริษัทได้เตรียมที่จะย้ายออฟฟิศต้นปี 2563 สามารถรองรับเทเลเซลได้ถึง 2,000 ราย โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าที่ซื้อขายสินค้าของบริษัทแล้วจำนวน 1.3 ล้านราย และโตต่อเนื่องเดือนละ 20,000 ราย
ล่าสุดไตรมาสสุดท้ายด้วยการทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ชูกลยุทธ์ “Story Telling” การสื่อสารแนวใหม่ ผ่านเรื่องราวในชีวิตจริงของ “น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์” กับมาจีค เฮิร์บลิส พร้อมทั้งวางกลยุทธ์สื่อสารและทำการตลาดหลากหลายช่องทางในรูปแบบ Omni-Channel Marketing เชื่อมโยงช่องทางระหว่างออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าเข้าถึงสินค้าง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ยังคงชูกลยุทธ์ Celebrity Endorsement โดยพรีเซ็นเตอร์ดัง ได้แก่ “ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี” นักแสดงรุ่นใหญ่ เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. หลินจือซัน, “ฝ้าย-เวฬุรีย์ ดิษยบุตร” นางเอกช่อง 8 สุดปัง เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์สกินแคร์ดูแลผิวพรรณ แบรนด์ MAGIQUE “เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์” นักร้องขวัญใจมหาชน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ดูแลเส้นผม แบรนด์ REVIVE และ “พีท ทองเจือ” พระเอกซุป'ตาร์ตลอดกาลเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร S.O.M. CMAX กาแฟสำเร็จรูปมีส่วนผสมถั่งเช่าสกัด
ในขณะที่เทรนด์โลกกำลังสนใจสินค้าเพื่อสุขภาพ และประเทศไทยเองก็กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aged Society) ทำให้ทุกคนหันมาใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน ธุรกิจ MPC ของเราได้เตรียมลอนช์สินค้าใหม่ในกลุ่มเฮลท์แอนด์บิวตี้ (Health and Beauty) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร S.O.M. CMAX และอื่นๆ อีก 2-3 รายการ ด้วยกลยุทธ์การบริหารและแผนการตลาดที่ทำอย่างแม่นยำและต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นายสุรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทยังคงเปิดกว้างรับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจในแนวราบ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ นำไปสู่การขยายฐานรายได้ของบริษัทอาร์เอส ซึ่งความร่วมมือระหว่างอาร์เอสกับกลุ่มบีทีเอส และการดีลกับพันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวพันกับการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อความงามต้นน้ำจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นภายในปลายปีนี้ และจะทำให้กลุ่มบริษัทอาร์เอสทะยานสู่เป้าหมื่นล้านในปี 2565 ได้อย่างแน่นอน”