xs
xsm
sm
md
lg

รถไฟฟ้าสีส้มไม่จบ! จ่อปรับรูปแบบรัฐลงทุนโยธา-ติง PPP 100% ทำต้นทุนสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รถไฟฟ้าสายสีส้มยังไม่จบ “อนุทิน” สั่งถกรูปแบบลงทุนใหม่ สรุปใน 2 สัปดาห์ หลัง คลัง-งบ ติงรัฐลงทุนโยธาต้นทุนต่ำกว่า PPP เอกชน 100% “ศักดิ์สยาม” ระบุโมเดลสีส้มจะเป็นรูปแบบลงทุนสายอื่นๆ ต้องเลือกที่ได้ประโยชน์และเหมาะสมที่สุด

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญผู้แทนกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ประชุมในเรื่องรูปแบบที่เหมาะสมในการลงทุนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันตก (บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 35.9 กม. มูลค่ารวม 122,041 ล้านบาท โดยให้เวลาประเมินข้อมูลและสรุปภายใน 2 สัปดาห์

โดยรองนายกฯ อนุทินได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือในรายละเอียดทั้งหมดและสรุปแนวทางการลงทุนที่มีความเหมาะสม ภายใต้หลักการคือ 1. ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด 2. ภาครัฐไม่เสียเปรียบและไม่เป็นภาระงบประมาณ 3. เอกชนมีผลประกอบการที่สามารถดำเนินการได้

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง และ สบน.ได้มีความเห็นว่ารูปแบบที่รัฐลงทุนก่อสร้างงานโยธาเองจะมีต้นทุนต่ำกว่าให้เอกชนลงทุน ต้องดูข้อมูลการศึกษาให้ชัดเจน เนื่องจากหากเลือกการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้มด้านตะวันตกรูปแบบใดแล้วจะเป็นโมเดลที่จะนำไปใช้กับการลงทุนรถไฟฟ้าสายต่อไป ดังนั้นต้องเลือกรูปแบบที่ดีที่สุด และเป็นมาตรฐาน ซึ่งต้องตอบให้ได้ว่ ดีและเหมาะสมอย่างไร

“ต้องอธิบายได้ว่าทำไมเลือกรูปแบบที่ให้เอกชนลงทุน 100% เพราะแนวทางของสายสีส้มจะมีผลผูกพันไปถึงการดำเนินงานของรถไฟฟ้าสายอื่นๆ อีกที่ควรเป็นโมเดลเดียวกัน ไม่ใช่วันนี้สายสีส้มใช้แบบนี้ ต่อไปสายสีม่วงใต้ใช้อีกรูปแบบหนึ่ง จะอธิบายอย่างไร เรื่องสำคัญคือ 3 ฝ่ายต้องไปด้วยกันได้ ประชาชน รัฐ และเอกชนผู้ประกอบการ โดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนก่อน”

@“ศักดิ์สยาม” ลั่นไฮสปีด 3 สนามบิน ใครเจรจานอก RFP ต้องรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือเรื่องการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 224,544.36 ล้านบาทด้วย โดยนายศักดิ์สยามกล่าวว่าได้เสนอต่อที่ประชุมให้ทำตารางแยกเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารการคัดเลือกเอกชน หรือ REQUEST FOR PROPOSAL (RFP) แต่ละข้อ และทำข้อมูลความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายในแต่ละเรื่องให้ชัดเจน รวมถึงผลการเจรจาแต่ละข้อว่าได้มีข้อยุติแล้วอย่างไร เพื่อสรุปเสนอต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในวันที่ 26 ก.ย.

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ที่ให้แยกหัวข้อใน RFP ทำเป็นตาราง เพื่อให้เห็นชัดเจนว่าแต่ละเงื่อนไขเป็นอย่างไร ซึ่งเท่าที่รับฟังเบื้องต้น การเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ซีพี) และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) ได้ข้อยุติแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งข้อสังเกตไปว่าต้องไม่มีอะไรที่นอกเหนือจาก RFP ใครเขียนเพิ่มเติมไปก็ต้องรับผิดชอบ เพราะต้องไม่มีค่าโง่ และหากเลยกำหนดการยืนราคาวันที่ 7 พ.ย. 2562 แล้วยังไม่แล้วเสร็จ ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น