ผู้จัดการรายวัน 360 - “พีน่าเฮาส์” เร่งมือปรับโฉมเอาต์เลตครั้งใหญ่รอบ 18 ปี รับศึกผู้เล่นรายใหม่ เพิ่มบริการและร้านค้าที่หลากหลาย ประเดิมสาขาพัทยาแห่งแรกต้นปีหน้า หวังดันรายได้เอาต์เลตเป็น 800 ล้านบาทในปี 65 พร้อมโหมตลาดเสื้อผ้าลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์
นาวสาวนัสวีร์ ตันติจิรสกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีน่า เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต นำเข้าและจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและบริหารพรีเมียม เอาต์เลต เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการแข่งขันธุรกิจเอาต์เลตที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นจากผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด ประกอบกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ต้องการบริการที่ครบวงจรมากขึ้น กับบริการที่หลากหลายไม่เพียงแค่การมาซื้อเสื้อผ้าเท่านั้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีแผนที่จะทำการปรับปรุงเอาต์เลตของบริษัทฯ ทั้งหมด
โดยเตรียมการปรับโฉมใหม่ด้วยการเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้ามา และเพิ่มร้านค้าหลายประเภทที่เป็นแบรนด์ดังเข้ามาบริการในเอาต์เลตด้วย เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค หลังจากที่เราทำธุรกิจเอาต์เลตนี้มานานถึง 18 ปีแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องทำการปรับครั้งใหญ่ด้วย
ตามแผนงาน จะเริ่มปีหน้า (2563) เริ่มปรับสาขาพัทยาเป็นที่แรก จากนั้นจะทยอยปรับสาขาอื่นๆ ตามมาที่มีทั้งหมด 9 สาขาในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อปรับเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้ในกลุ่มเอาต์เลตเพิ่มเป็น 800 ล้านบาทต่อปีได้ จากเดิมมีประมาณ 480 ล้านบาท ภายในปี 2565
นางสาวนัสวีร์กล่าวต่อถึงธุรกิจเสื้อผ้าด้วยว่า แผนธุรกิจในปี 2562 นี้กลุ่มสินค้าเครื่องแต่งกายจะให้ความสำคัญต่อการจำหน่ายสินค้าลิขสิทธิ์ซูเปอร์ฮีโร่มากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนเปิดร้านดีซี ซูเปอร์ฮีโร่ส์ สโตร์ แบ่งสัดส่วนสินค้าเป็น เสื้อผ้า 70% และเครื่องประดับ 30% เน้นเปิดสาขาตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดที่เทอมินัล 21 พัทยา สาขาแรก ตามด้วยที่เมญ่าเชียงใหม่ และไอคอนสยาม โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักท่องเที่ยว 80-90% เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและรู้จักตัวการ์ตูนคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่เป็นอย่างดี เช่น แบทแมน, เดอะ โจ๊กเกอร์, วันเดอร์ วูแมน, ฮาร์ลีย์ ควินน์ ขณะที่กำลังซื้อของคนไทยลดลงไปมาก เพราะพฤติกรรมการซื้อจากเดิมที่ซื้อเสื้อผ้าเป็นชุดเซตหรือ 3-4 ตัวต่อครั้ง ลดเหลือ 1-2 ตัวเท่านั้น จึงคาดว่าการเน้นลูกค้าต่างชาติมากขึ้นจะช่วยกระตุ้นยอดขายบริษัทปี 62 นี้เป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5,000 ล้านบาท เท่ากับปี 61
นอกจากนั้น พีน่ายังได้รับลิขสิทธิ์การ์ตูนจากค่ายอื่นๆ อีกด้วยในการผลิตสินค้าเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย จำหน่ายในร้านเครือข่ายของพีน่าเอง ซึ่งขณะนี้รวมทั้งหมด 40 สาขา ได้แก่ ร้านดอช, ดอช คิดส์ พลัส และจะเปิดเพิ่มอีก 10 สาขาภายใน 3 ปีจากนี้ และ ดอช แฟคตอรี่ สโตร์ เป็นร้านที่ขายสินค้าตกรุ่น ซึ่งปีนี้เปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ส่วนแบรนด์อื่นๆ เช่น พีน่า, เทนแอนด์โค, แกลลอป ยังไม่มีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มแต่อย่างใดในช่วงนี้
โดย คอนเซปต์ของร้าน DOSH, DOSH Kids+, DOSH FactoryStore และ Hollywood Studio เป็นร้านประเภท multi-characters ที่จัดจำหน่ายสินค้าจากลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนจากหลากหลายค่าย ทั้งสินค้าเด็กและผู้ใหญ่ ที่เข้าถึงได้ง่ายทั้งในด้านราคา และรูปแบบสินค้า โดยสินค้า DC Comics คิดเป็นสัดส่วน 40% ของยอดขาย โดยตั้งเป้ายอดขายรวม 480 ล้านบาทในปี 2562
นอกจากนี้ ทางพีน่ายังมีแผนการขยายสาขาร้าน DC Super Heroes เพิ่มอีก 2-3 สาขา ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยมุ่งเน้นในการเลือกโลเคชั่นที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยว กลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงเท่านั้น ส่วนร้าน DOSH และDOSH Kids+ มีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 10 สาขาภายใน 3 ปีข้างหน้า และ DOSH Factory Store ที่กำหนดให้เป็นช่องทางในการระบายสินค้า off-season ด้วยคอนเซปต์เมก้าสโตร์ บนพื้นที่ 300 - 500 ตารางเมตร ปัจจุบันได้เปิดไปแล้ว 3 สาขาที่พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท พัทยา พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท อยุธยา และเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต และต้นปี 2562 เปิดสาขาเพิ่มที่สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต และยังมีแผนขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าดันยอดขายให้ถึง 800 ล้านในปี 2565