ผู้จัดการรายวัน 360 - "ทีป็อป" ไปไกลได้ระดับเวิลด์คลาส "โฟร์โนล็อค" จากนำเข้าศิลปินเกาหลีจัดคอนเสิร์ตในไทย แตกไลน์ธุรกิจใหม่ทุ่ม 100 ล้านบาทปั้นศิลปินไทย "ทรินิตี้" ตามรอยเกาหลี หวังไปถึงระดับเวิลด์คลาส
นายอนุวัติ วิเชียรณรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฟร์โนล็อค จำกัด ดำเนินธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ครบวงจรในรูปแบบนำเข้าศิลปินเกาหลีจัดคอนเสิร์ตในไทย เปิดเผยว่า ภายในปี 2563 บริษัทจะดำเนินธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์แบบครบวงจร และจะเป็นมากกว่าค่ายเพลง จากการปั้นศิลปิน ภายใต้โมเดลการบริหารแบบ 360 องศา ผ่านงานเพลง, รายการ, ซีรีส์, คอนเทนต์, โฆษณา, พรีเซ็นเตอร์, อีเวนต์, คอนเสิร์ต, โปรโมเตอร์ และอะคาเดมี สู่ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ของเอเชีย
"เราเชื่อว่าศิลปินไทยมีศักยภาพไม่แพ้เกาหลี ตัวอย่างให้เห็น เช่น ลิซ่า-แบล็คพิงค์ ซึ่งการที่จะทำได้นั้นต้องเปลี่ยนกระบวนการคิดบริหารจัดการใหม่ ที่สำคัญศิลปินต้องมีคุณภาพ จากการฝึกซ้อมที่ดี เช่นเดียวกับทางเกาหลี ซึ่งมองว่า ทีป็อป ของเรามีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของละคร ภาพยนตร์ที่มีการส่งออก การที่จะส่งออกศิลปินไทยออกไปก็มีโอกาสเช่นกัน ทั้งในระดับเอเชีย และระดับเวิลด์คลาส"
ล่าสุดปลายปี 2562 นี้บริษัทได้ต่อยอดธุรกิจสู่การสร้างศิลปินวงแรกขึ้นมา ในนาม TRINITY (ทรินิตี้) ประกอบด้วย เจมส์-ธีรดนย์, เติร์ด-ลภัส, ปอร์เช่-ศิวกร และ แจ็กกี้-จักริน ในรูปแบบ 360 องศา มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน หลังจากในปี 61 ได้รุกธุรกิจคอนเทนต์โพรวายเดอร์ ด้วยโปรเจกต์ 9x9 กับการลงทุนกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จสูงมาก จากที่ผ่านมาบริษัทเน้นธุรกิจด้านนำเข้าศิลปินเกาหลีมาจัดคอนเสิร์ตในไทย รวมถึงอีเวนต์ครบวงจรเป็นหลัก
สำหรับการเดบิวต์ศิลปินวงทรินิตี้จะมีทั้งหมด 4 เฟส คือ 1. เดบิวต์สร้างการรับรู้ผ่านงานเพลง 2. โชว์เคส 4 ครั้ง ทัวร์คอนเสิร์ตในไทย 3. รุกเอเชีย รวมจีน แต่ไม่รวมบรูไน และ 4. รุกเวิลด์คลาส ซึ่งเฉพาะ 2 เฟสแรกใช้งบลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท จากการทำงานเพลง 4 เพลง ลงทุนไป 40 ล้านบาทแล้ว คาดหวังว่าการลงทุนครั้งนี้จะได้กลับมาอย่างน้อย 120 ล้านบาท
นายอนุวัติกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ยังเตรียมเดบิวต์ศิลปินใหม่อีก 4 วง ใน 2-3 ปีจากนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีวงศิลปินหญิงด้วย แน่นอนว่ากว่าจะเดบิวต์ศิลปินออกมาได้ต้องใช้เวลา 3-4 ปีในการฝึกซ้อมต่างๆ เป็นการลงทุนต่อปีหลายล้านบาทกว่าจะเดบิวต์ศิลปินออกมาได้ แต่เชื่อว่าอนาคตธุรกิจบริหารศิลปินจะเป็นรายได้สำคัญ จากปัจจุบันรายได้หลักมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ 1. อีเวนต์ 30% 2. นำเข้าศิลปินคอนเสิร์ต 40% และ 3. อื่นๆ 30%