ผู้จัดการรายวัน360- โปรโมชั่นเดือด ถล่มคลินิกความงามล่าทัพปิดกันอื้อ ตัวจริงเท่านั้นอยู่รอด "ของขวัญคลินิก" ชูบริการใหม่สวยตั้งแต่ระดับเซล ด้วย "นวัตกรรมแบบองค์รวม" ฉลอง 13ปี มั่นใจสิ้นปีรั้งบัลลังก์คลินิกความงาม แย้มปีหน้าร่วมทุนแบรนด์ดังสะเทือนวงการ
แพทย์หญิง ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ ประธานบริหาร บริษัท ของขวัญ คลินิก เวชกรรม จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ของขวัญ คลินิก” เปิดเผยว่า ภาพรวมคลินิกความงามในไทยมีมูลค่าเป็นหลักหมื่นล้านบาท ปี2562นี้ยังเติบโตได้ดีไม่ต่ำกว่า 10-15% แต่สงครามราคา โปรโมชั่นเป็นกลยุทธ์การทำตลาดที่รุนแรงมาก ทำให้เห็นคลินิกปิดตัวและเปิดใหม่อยู่ตลอดเวลา ส่วนที่ปิดตัวลงคือไม่ใช่ตัวจริง ไม่ใช่หมอ เป็นใครก็ได้ที่มาเปิด ที่สำคัญบริหารธุรกิจและความเสี่ยงไม่เป็น
ในส่วนของของขวัญคลินิก ในการฉลองครบรอบ 13 ปีนี้ ล่าสุดได้นำเอา“นวัตกรรมแบบองค์รวม” ที่ช่วยให้คนไข้สวยใสไปถึงระดับเซลล์ มาใช้กับลูกค้า กล่าวคือ เป็นการย้อนเวลากลับไปเหมือน "ไทม์แมชชีน" (Time machine) เพื่อให้เราสวยเหมือนกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้เข็ม มีด หรือยาแปลกปลอมที่น้อยลง
"ต้องนำนวัตกรรมนี้เข้ามาใช้ เนื่องจากว่าเป็น "ไทม์แมชชีน" เพราะร่างกายฉลาดที่สุด ดังนั้นคือเราอยากจะทำให้ร่างกายกลับไป Fresh ได้ดีเหมือนเดิม ก็ต้องทำสิ่งที่ฉลาดที่สุด นั่นก็คือสิ่งที่ร่างกายทำกลับมา ต้องบอกว่าการดูแลคนไข้แบบองค์รวม เป็นประสบการณ์ที่หมอทำมาตลอด 15ปี"
ส่วนในเรื่องการขยายสาขานั้นปัจจุบันมี 17 สาขาทั้งในประเทศไทยและลาว รวมถึงจีน อีก5 สาขา โดยในปีนี้เป็นปีที่เราร่วมลงทุนกับต่างประเทศมากขึ้น ทำให้ได้นวัตกรรมใหม่ๆเกือบทั้งหมด และจะมีการร่วมลงทุนกับบางบริษัทให้ครบวงจรมากขึ้น จะทำให้เป็น lab ที่เป็นศูนย์ครบวงจร ที่จะมีบริการแบบครบวงจรเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ทั้งsurgery, aseptic, anti-aging, plastic surgery และอาจจะมี cell therapy เข้าด้วย โดยการขยายสาขาจะเป็นแบบแนวบน คือทำให้บริการแบบไฮเอนมากขึ้น ซึ่งเดิมกลุ่มลูกค้าจะเป็นระดับ B+ ขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีแผนเจรจาร่วมมือกับคลินิกความงามแบรนด์อื่น ให้เกิดการบริการที่ครบวงจรมากขึ้น คาดว่าปีหน้าจะได้เห็น ส่วนจะใช้แบรนด์ใด หรือต้องเปลี่ยนชื่อจากของขวัญคลีนิกหรือ KKC หรือไม่นั้น ต้องดูอีกที
แพทย์หญิง ของขวัญ กล่าวต่อว่า สำหรับยอดผลประกอบการ ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15 – 20 % และกำไรโตขึ้น 25% หรือคาดว่า “ของขวัญ คลินิก” จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในวงการธุรกิจความงาม จากเดิมติดท็อป5 .