“คมนาคม” เตรียมพร้อมทุกโหมดระบบขนส่ง “สนามบิน-ทลฉ.-รถไฟ-บขส.” รองรับการเดินทางแข่งขัน จักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโต จีพี” สนามช้างบุรีรัมย์ คาดมีผู้เข้าร่วมงาน 2.2 แสนคน ประสานสายการบิน, รถไฟ, บขส. เพิ่มบริการ รองรับขากลับวันที่ 6 ต.ค.
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายคมนาคมและการขนส่ง งานแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโต จีพี ประจำปี 2561-2563 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ได้หารือร่วมกับ นายปัญญา หาญลำยวง รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักแข่งจักรยานยนต์ที่จะเดินทางเข้ามาแข่งขันในประเทศไทย การขนส่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันฯ และการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมชมการแข่งขันฯ ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2562 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้น 2.2 แสนคน
ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์พร้อมอุปกรณ์การแข่งขันจะขนส่งผ่านท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปสู่สนามแข่งขัน โดยโครงสร้างของรถจักรยานยนต์จะขนส่งผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนอุปกรณ์การแข่งขันและอะไหล่จะขนส่งทางเรือมายังท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะต้องมีการอำนวยความสะดวกในการขนส่งและพิธีการทางศุลกากร
ส่วนการเดินทางของประชาชน และนักท่องเที่ยวนั้น จะต้องพร้อมรองรับในการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะนำประเด็นข้อเสนอแนะจากปี 2561 มาใช้ปรับปรุง ในส่วนของการเดินทางภายในประเทศทางอากาศไปยังสนามบินบุรีรัมย์นั้น ได้ประสานสายการบิน 4 สาย ได้แก่ นกแอร์, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยสมายล์, บางกอกแอร์เวย์ ในการเพิ่มเที่ยวบินช่วงขากลับในวันที่ 6 ต.ค. 2562
ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟ ได้ประสานการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการจัดเตรียมขบวนรถชั้น 1 เพิ่มสำหรับบริการนักท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมาค่อนข้างได้รับความนิยม ส่วน บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ให้เพิ่มเที่ยววิ่งรถเสริมอีก 20 เที่ยว จากปกติ 40 เที่ยว ในวันที่ 6 ต.ค.เช่นกัน
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช คณะทำงาน นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมในการรองรับอากาศยานและผู้โดยสารในการแข่งขัน Moto GP 2019 ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2562 ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ นายวิทวัส ภักดีสันติสกุล รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) รายงานว่า การเตรียมแผนการรองรับในทุกด้าน พร้อมทั้งทำแผนผังพื้นที่เช็กอิน ที่พักคอยของผู้โดยสาร เส้นทางเข้าอาคาร การกำหนดพื้นที่รับ-ส่งผู้โดยสาร จุดจอดรถเช่า เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ ในด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานให้มีการตรวจสอบความพร้อมการใช้งาน และเพียงพอตามมาตรการรักษาความปลอดภัยและแผนฉุกเฉินของท่าอากาศยาน
รวมถึงเตรียมบุคลากรที่ปฏิบัติงานในช่วงเวลาดังกล่าวให้เพียงพอต่อการให้บริการและอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งประสานงานกับสายการบิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแผนการเตรียมการรองรับ
ปัจจุบันสนามบินบุรีรัมย์มีเที่ยวบินให้บริการจำนวน 10 เที่ยวบิน/วัน โดยมี 2 สาย ได้แก่ นกแอร์ และไทยแอร์เอเชีย