xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” ดันไทยศูนย์กลางสตาร์ทอัพ รัฐผนึกเอกชนประเดิมลงขันวันนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สมคิด” เตรียมเป็นประธานวันนี้ (9 ก.ย.) ร่วมลงนามความร่วมมือการลงทุนและส่งเสริมสตาร์ทอัพเพื่อระดมทุนครั้งแรกกว่า 500 ล้านบาท โดยดึงเอกชน 12 องค์กรประเดิม ขับเคลื่อน บ.อินโนสเปซ (ประเทศไทย)

นายเดชา จาตุธนานันท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (9 ก.ย.) จะมีพิธีลงนามความร่วมมือพันธมิตรด้านการลงทุนในการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรม ผู้ประกอบการ และวิสาหกิจเริ่มต้น (สตาร์ทอัพ) ของหน่วยงานรัฐและเครือข่าย 12 องค์กรเพื่อระดมทุนครั้งที่ 1 ในการจัดตั้งบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด วงเงิน 535 ล้านบาท เพื่อเป็นเครื่องมือในการส่งเสิรมสตาร์ทอัพไทยและยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและสตาร์ทอัพของอาเซียนในอนาคต โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีลงนาม

สำหรับการลงนามจะมีหน่วยงานหลักๆ ที่เข้าร่วม ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และพันธมิตรเอกชน และสถาบันการเงิน ขณะที่ 12 องค์กรที่ร่วมลงนามความร่วมมือ ประกอบด้วย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 100 ล้านบาท บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ร่วมกับกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น 50 ล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ 50 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพ 50 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย 50 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทย 50 ล้านบาท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท เครือสหพัฒน์ 30 ล้านบาท บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 30 ล้านบาท บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 20 ล้านบาท และธนาคารรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีดีแบงก์) 5 ล้านบาท

“หลังจากนี้จะมีการคัดเลือกสตาร์ทอัพของไทยที่มีขีดความสามารถจำนวน 40 รายเพื่อนำไปเสนอแผนธุรกิจกับสตาร์ทอัพฮ่องกงที่งานฮ่องกงไซเบอร์พอร์ตในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะคัดเลือกสตาร์ทอัพในลักษณะเดียวกันเพื่อไปเสนอกับเกาหลีด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าให้ไทยมีสตาร์ทอัพที่เป็นยูนิคอร์นหรือธุรกิจที่เติบโตรวดเร็วมูลค่าสูงอย่างน้อย 1 รายภายใน 5 ปีนี้” นายเดชากล่าว

อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้จะมีการลงนามความร่วมมือด้านการระดมทุนครั้งที่สอง เบื้องต้นผู้ร่วมลงทุนจะประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ธนาคารออมสิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขณะเดียวกันยังมีพันธมิตรที่จะมาช่วยยกระดับในด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีให้กับสตาร์ทอัพเพิ่มอีก เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น