มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฯ ยื่น “ศักดิ์สยาม” ค้านยืดอายุรถ หมวด 1, 4 และให้เปลี่ยนเป็นไมโครบัสโดยสมัครใจ ชี้สวนทางกับมาตรการความปลอดภัยในบริการขนส่งมวลชน “รองปลัดฯ คมนาคม” ชี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณา ย้ำรถหมวด1, 4 วิ่งระยะสั้น สถิติอุบัติเหตุน้อย
วันนี้ (6 ก.ย.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบให้ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นผู้แทนรับมอบหนังสือจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยรถตู้โดยสารและการคุ้มครองผู้บริโภคในบริการขนส่งมวลชน 7 ข้อ ได้แก่
1. ให้ทบทวนมติคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางที่ 9/2562 วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ที่อนุญาตให้รถตู้โดยสารหมวด 1 และหมวด 4 ที่มีอายุการใช้งานเกิน 10 ปี สามารถวิ่งให้บริการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยขยายเวลาอีก 180 วัน ซึ่งในระหว่างนี้หากรถโดยสารคันใดครบอายุการใช้งานให้เปลี่ยนเป็นรถไมโครบัสหรือรถตู้โดยสารใหม่ได้ตามความสมัครใจ
ซึ่งขัดแย้งกับมติเดิมที่ให้รถโดยสารทุกหมวดทุกคันที่มีอายุการใช้งานครบ 10 ปี ต้องเปลี่ยนเป็นรถโดยสารขนาดเล็กหรือไมโครบัสโดยเร็ว โดยทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฯ กังวลจะกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
2. ขอให้ยกเลิกนโยบายเพิ่มความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงบนท้องถนน
3. การบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุแบบ Real Time ผ่านระบบ GPS เมื่อพบว่ามีการขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้สามารถแจ้งเตือนผู้ประกอบการหรือหน่วยงานรัฐบังคับใช้กฎหมายได้ทันที รวมทั้งเสนอให้มีป้ายแสดงความเร็วของรถโดยสารภายในรถเพื่อให้ผู้โดยสารทราบด้วย
4. ต้องควบคุมคุณภาพมาตรฐานบริการของรถตู้โดยสารทุกประเภทและรถตู้ส่วนบุคคล โดยไม่มีการละเว้นกับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนกฎหมาย พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน รวมทั้งเสนอให้มีการยกระดับผู้ขับรถโดยสารให้มีมาตรฐานทางวิชาชีพมากยิ่งขึ้น
5. ควรขยายขอบเขตกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ให้สามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุบัติเหตุบนถนนได้รวดเร็วและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
6. สนับสนุนให้มีตัวแทนองค์กรผู้บริโภคเข้าร่วมให้ความเห็น ข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางและคณะกรรมการควบคุมขนส่งประจำจังหวัด
7. สนับสนุน จูงใจให้ภาคประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนผู้กระทำความผิด อาทิ กำหนดส่วนแบ่งค่าปรับการกระทำความผิดจากพนักงานขับรถและผู้ประกอบการรถโดยสารไม่ปลอดภัย
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยินดีรับข้อเสนอจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฯ ไปพิจารณาในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน ซึ่ง รมว.คมนาคมมีความห่วงใยในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก
สำหรับมติคณะกรรมการฯ ที่ให้ขยายเวลาการเปลี่ยนรถตู้ฯ อีก 180 วันนั้น เพื่อให้มีเวลาในการพิจารณาอย่างรอบด้านในทุกมิติ ทั้งผู้ใช้บริการ เจ้าของรถ ผู้บังคับใช้กฎหมาย ความคุ้มค่า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ก่อปัญหาต่อไปในอนาคต เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นรายย่อย การเข้าถึงแหล่งเงินทุนค่อนข้างยาก และอาจเกิดปัญหาจุดจอดรถให้บริการ กระทบต่อการจราจร
อีกทั้งรถโดยสารหมวด 1 และหมวด 4 เป็นรถที่วิ่งให้บริการระยะสั้น และมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุน้อย จึงไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ สำหรับการปรับเพิ่มความเร็วรถเป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและศึกษา ยังไม่ได้ข้อสรุป
ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคฯ เสนอมา ได้มอบให้ ขบ.ไปพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้อง และขอบคุณที่ทางภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความปลอดภัยร่วมกัน