กัมพูชาเปิดทางไทยเริ่มต้นเจรจาปิโตรเลียมพื้นที่ทับซ้อน “สนธิรัตน์” ขอศึกษาลงลึก

“สนธิรัตน์” เผยกัมพูชาเปิดทางให้ไทยเริ่มต้นการเจรจาเพื่อเดินหน้าพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมพื้นที่ทับซ้อน โดยไทยขอศึกษาอุปสรรคในอดีตที่ผ่านมาหากมีทางแก้ไขพร้อมที่จะเดินหน้าไปสู่การเจรจาต่อไปในอนาคต พร้อมอ้อนขอขายไฟ พัฒนาตลาดแอลเอ็นจี

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงการหารือทวิภาคีกับประเทศกัมพูชาในเวทีการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานครั้งที่ 37 (AMEM) ว่า กัมพูชาได้หยิบยกประเด็นการพัฒนาปิโตรเลียมพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา โดยต้องการให้ไทยเริ่มต้นการเจรจาในเรื่องดังกล่าวต่อเนื่องจากอดีตที่เคยดำเนินการมา ซึ่งไทยเองได้รับข้อเสนอดังกล่าวไว้โดยจะนำกลับไปพิจารณารายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นอุปสรรคในอดีต หากมีแนวทางแก้ไขก็จะนำไปสู่การหารือร่วมกันในอนาคตต่อไป

“เรายังไม่ได้วางกรอบเวลาว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ โดยเรื่องนี้เป็นจุดประสงค์ของกัมพูชาซึ่งเราคงจะต้องมาดูว่าอดีตอะไรที่เป็นอุปสรรคและปัญหา หากเราสามารถแก้ไขหรือจัดการได้ก็จะแจ้งเพื่อนำไปสู่การเจรจาต่อไป แต่การหารือนั้นทั้งสองประเทศต่างก็เห็นในหลักการที่ต้องการพัฒนาเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งสองประเทศต่อเนื่องจากในอดีต” นายสนธิรัตน์กล่าว

นอกจากนี้ ไทยยังได้เสนอที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านการขายไฟฟ้าไปยังกัมพูชา ซึ่งขณะนี้การผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ ซึ่งไทยมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาค (ฮับ) โดยทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะทำความร่วมมือในการบรรลุข้อตกลงต่อไปเพื่อตอกย้ำให้ไทยเป็นฮับไฟฟ้า รวมไปถึงความร่วมมือในการผลิตไฟฟ้าในกัมพูชาโดยใช้ก๊าซธรรมชาติจากฝั่งของกัมพูชาเองด้วย ซึ่งทาง บมจ.ปตท.ก็สนใจที่จะเข้าไปดำเนินการ

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า จากการหารือไทยจึงขอการสนับสนุนและส่งเสริมจากกัมพูชาต่อภาคธุรกิจไทยที่จะเข้าไปร่วมมือและลงทุนในกิจการพลังงาน เช่น บมจ.ปตท.ที่มีแผนขยายธุรกิจพลังงานหลายเรื่องทั้งก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งไทยวางเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ และสอดรับกับทิศทางพลังงานอาเซียนที่ต้องการให้เกิดการพัฒนาแอลเอ็นจีในระดับที่เล็กลง หรือ Small Scale LNG เป็นต้น