"ศักดิ์สยาม" สั่ง ขสมก.ปรับแผนฟื้นฟู-จัดซื้อรถใหม่ มุ่งใช้ไอที และ AI เพื่อลดต้นทุน "สุระชัย" เผย ช ทวี ทยอยถอดเครื่อง E-Ticket และ Cash-Box เร่งคุยกรุงไทยทำระบบแทน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในการปรับปรุงแผนฟื้นฟู เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางในอนาคตที่จะมีการนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาใช้มากขึ้น เพื่อลดต้นทุนด้านบุคลากร และปรับวิธีการทำงานให้สอดคล้อง ทำให้มีกำไร โดยให้เร่งปรับปรุงและนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
ทั้งนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ ครม.จะมีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.แก้ปัญหาหนี้สินสะสมของ ขสมก.ประมาณ 1.18 แสนล้านบาทไปแล้ว แต่สามารถปรับปรุงและเสนอ ครม.ได้ใหม่เพื่อให้ได้แผนที่เหมาะสมมากที่สุด
สำหรับการจัดหารถโดยสารใหม่ ให้บูรณาการกับรถไฟฟ้า รถไฟ และทางน้ำ ซึ่ง ขสมก.จะต้องปรับเส้นทางเพื่อเป็นฟีดเดอร์และจะต้องเป็นรถโดยสารปรับอากาศเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย ซึ่งการปรับปรุงแผนจะต้องไม่ให้กระทบต่อพนักงาน
ด้านนายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า การปรับปรุงแผนฟื้นฟู ขสมก.ใหม่จะไม่กระทบต่อแผนเดิมมากนัก เป็นการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น เช่น อ้างอิงการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ จากเดิม ขสมก.เดินรถ 117 สาย เป็น 137 สาย ซึ่งอาจจะมีการปรับเส้นทางรถเมล์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการเพิ่มในปี 2562 เป็นต้นไป เช่น สายสีเขียว เปิดเพิ่มจากหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าวและแยกเกษตร รวมถึงสายสีน้ำเงินต่อขยาย ที่จะเปิดช่วงหัวลำโพง-ท่าพระและหลักสองในปีนี้
ทำให้เส้นทางรถเมล์อาจจะปรับเปลี่ยนอีกเพื่อเป็นฟีดเดอร์ หรือวิ่งระยะทางสั้นลง แต่คาดว่าจะไม่เกิน 10 เส้นทาง
ก่อนหน้านี้ได้เสนอคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อทบทวนมติ ครม.เดิมที่ให้จัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นจำนวน 3,000 คัน วงเงิน 21,116.44 ล้านบาท
ประกอบด้วย 1. รถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,890 ล้านบาท (จัดหาแล้ว) 2. จัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้า จำนวน 35 คัน วงเงิน 466.94 ล้านบาท 3. จัดซื้อรถโดยสารไฮบริด จำนวน 1,453 คัน วงเงิน 11,624 ล้านบาท 4. เช่ารถโดยสารไฮบริด จำนวน 400 คัน วงเงิน 4,800 ล้านบาท 5. เช่ารถโดยสาร NGV จำนวน 300 คัน วงเงิน 2,200 ล้านบาท 6. ปรับปรุงสภาพรถโดยสาร NGV เดิม จำนวน 323 คันวงเงิน 138.5 ล้านบาท
โดยจะใช้แผนเดิมเป็นกรอบ แบ่งเป็นล็อต ใช้เวลา 3 ปี ดังนั้น หากในอนาคตมีความจำเป็นใช้รถน้อยลงก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถชะลอการจัดซื้อล็อตหลังได้
@ ช ทวี ทยอยถอดเครื่อง E-Ticket และ Cash-Box
นายสุระชัยกล่าวว่า หลังจากที่ ขสมก.ได้ยกเลิกสัญญาให้เช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ E-Ticket และ Cash-Box บนรถโดยสารประจําทาง จํานวน 2,600 คัน กับบริษัท ช ทวี จํากัด (มหาชน) หรือ CHO ซึ่งขณะนี้ บมจ.ช ทวี ได้ทยอยถอดเครื่อง E-Ticket และเครื่อง Cash-Box บนรถโดยสารแล้ว
โดยการดำเนินการระบบตั๋วร่วมนั้น ขสมก.อยู่ระหว่างหารือกับธนาคารกรุงไทยให้เข้ามาดำเนินการติดตั้งระบบของรถเมล์ทั้งหมด