“ศักดิ์สยาม-ถาวร” นั่งหัวโต๊ะหย่าศึก “ทย.-ทอท.” สรุปไม่ให้สนามบินกระบี่กับ ทอท. ส่วนอีก 3 สนามบิน “อุดรธานี-บุรีรัมย์-ตาก” เปลี่ยนจากโอนเป็นทำสัญญาจ้าง ทอท.บริหาร โดยทรัพย์สินยังเป็นของ ทย. ส่วนรายได้และกำไรแบ่งตามสัดส่วน สั่ง ทย.เร่งพัฒนากระบี่รับเที่ยวบินตรง ตปท.
วันนี้ (27 ส.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมร่วมกับ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กรณีที่คณะกรรมการ (บอร์ด) มีมติที่จะขอรับโอนท่าอากาศยาน 4 แห่งของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) โดย ทอท.ขอเปลี่ยนจากท่าอากาศยานสกลนครและท่าอากาศยานชุมพร เป็นท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ ส่วนท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานตาก ยังคงเหมือนเดิม
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติร่วมกัน โดยสรุปว่าจะให้ ทอท.เข้าร่วมบริหารสนามบิน 3 แห่ง คือ อุดรธานี, บุรีรัมย์, ตาก ในรูปแบบ Management contract หรือการบริหารตามสัญญา ส่วนสนามบินกระบี่ ทย.ยังคงบริหารจัดการเอง โดย ทย.จะต้องทำแผนการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพให้สายการบินสามารถเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศโดยตรงได้ เพื่อลดความแออัดของสนามบินภูเก็ต
ทั้งนี้ การบริหารสัญญาสนามบิน 3 แห่งดังกล่าวเป็นลักษณะการจ้าง ทอท.บริหารโดยไม่ต้องประมูล ซึ่ง ทย.ยังคงเป็นเจ้าของสนามบินและทรัพย์สิน โดยจะมีการตีมูลค่าทรัพย์สินในส่วนของ ทย. และเงินลงทุนในส่วนของ ทอท.ในการพัฒนาศักยภาพสนามบินเพื่อแบ่งรายได้ตามสัดส่วนที่ลงทุน ซึ่งอาจจะกำหนดเป็นขั้นต่ำไว้ (Minimum) ขณะที่ผลกำไรที่เกิดขึ้นจะมีการนำส่งเข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยานเพื่อลดภาระงบประมาณ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพสนามบินของ ทย.
โดยได้มอบให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการประชุมรายละเอียด หลักการและรายละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า เนื่องจาก ทอท.จะต้องนำเรื่องกลับไปเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ขออนุมัติอีกครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้บอร์ด ทอท.มีมติขอรับโอน 4 สนามบิน และเสนอกระทรวงคมนาคม
“เรื่องนี้ยุติด้วยดี ทั้งสองฝ่ายพอใจ โดย ทย.เสนอรูปแบบที่ไม่ต้องโอน คือการบริหารสัญญาร่วม หรือจ้างบริหาร ไม่ใช่ PPP ซึ่งทั้ง 3 สนามบินแม้ปริมาณผู้โดยสารจะยังไม่มาก แต่ ทอท.มองว่ามีแนวทางที่สามารถพัฒนาได้ และ ทอท.มีศักยภาพในการบริหารจัดการ การลงทุน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพสนามบินของ ทย. ส่วนสนามบิกระบี่นั้นมีปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารมากอยู่แล้ว”