คณะทำงานแก้ปัญหาข้อพิพาทสัญญาทางด่วนฯ สรุป 3 แนวทาง เสนอ “ศักดิ์สยาม” พิจารณา 27 ส.ค. “ปลัดคมนาคม” เผยทุกแนวทางมีความเป็นไปได้ ซึ่งได้ทำข้อมูลเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย พร้อมแนบความเห็นของ BEM ประกอบ อุบไต๋แนวทางต่อสัญญา
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาข้อพิพาทสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL ครั้งที่ 3 ว่า คณะทำงานฯ ได้พิจารณาแนวทางที่มีความเป็นไปได้ และได้ลงมติในข้อสรุปเพื่อนำเสนอ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พิจารณาภายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ ตามที่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการทำงานเพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
กทพ.ได้ทำข้อมูลชี้แจงและตัวเลขเพิ่มเติมจากที่คณะทำงานมีคำถามไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ การดำเนินการเพื่อยุติข้อพิพาทโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) และโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา) ถูกต้องตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องครบถ้วนหรือไม่ การวิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ ประโยชน์ที่ประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชนจะได้รับ และทางเลือกอื่นๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจากแนวทางเดิมที่ กทพ.กำหนด โดยคณะทำงานได้สรุป 3 แนวทาง ได้แก่ แนวทางแรกเป็นข้อสรุปจากคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. ที่ได้เจรจากับ BEM ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561 ที่ให้ กทพ.หาแนวทางบรรเทาความเสียหายของรัฐด้วยการเจรจาต่อรอง รวมทั้งแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนทางด่วน โดยจะมีการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วน A, B, C), ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (C บวก) ออกไป 30 ปี เพื่อยุติข้อพิพาทระหว่าง กทพ. กับ BEM ทั้งหมด
ส่วนแนวทางอื่นอีก 2 แนวทาง ซึ่งคณะทำงานได้ทำเป็นข้อเสนอเพิ่มเติมนั้น ได้เชิญผู้แทนของบริษัท BEM มารับฟังรายละเอียดแต่ละแนวทาง พร้อมกับสอบถามความเห็นของเอกชนเพื่อรายงานประกอบการนำเสนอ แต่ไม่ได้มีการถามเอกชนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด
“คณะทำงานมีหน้าที่ในการทำรายละเอียดและข้อมูลทั้ง 3 แนวทาง พร้อมทั้งข้อดี-ข้อเสียเปรียบเทียบ รวมถึงความเห็นของเอกชนในแต่ละแนวทาง ส่วนการพิจารณาขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม” ปลัดคมนาคมกล่าว
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวสั้นๆ ว่า คณะทำงานได้เชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งบรรยากาศในการหารือเป็นไปด้วยดี ส่วนรายละเอียดขอให้ทางกระทรวงคมนาคมเป็นผู้ชี้แจง