xs
xsm
sm
md
lg

ทล. ดันลงทุน ”โทลล์เวย”ต่อขยายรังสิต–บางปะอิน 4 หมื่นล. ชงPPPปลายปี62-ทะลวงคอขวดพหลโยธิน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์  อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.)
“กรมทางหลวง” ดัน PPP ต่อขยาย”โทลล์เวย” ช่วงรังสิต – บางปะอิน 18 กม. วงเงิน 4 หมื่นล. เปิดฟังเสียงนักลงทุน ไทย/เทศ คาดสรุปชงกก.PPPปลายปีนี้ เปิดประมูลก่อสร้างปี 64 ให้บริการปี 68 เก็บ 60 บ.ตลอดสาย เผยไม่กระทบข้อพิพาททางแข่งขันของกทพ. เล็งหลังปี 77 เข้าบริหารโทลล์เวย์ตลอดสาย จากดินแดง-บางปะอิน
วันนี้(26ส.ค.) กรมทางหลวง(ทล.) ได้จัดสัมมนาเพื่อประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต – บางปะอิน เพื่อระดมความเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนในการพิจารณารูปแบบการร่วมลงทุนโครงการ โดย นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงรังสิต – บางปะอิน ระยะทาง 18 กม. มูลค่าโครงการ 39,956 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าก่อสร้างงานโยธาและระบบ 28,135 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการ ค่าบำรุงรักษา ตลอดสัญญา (30 ปี) 11,821 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสรุป เสนอกระทรวงคมนาคมและคระกรรมการ PPP ปลายปี 2562หรืออย่างช้าต้นปี 2563 เปิดประมูลหาผู้ร่วมทุนในปี 2563 – ต้นปี 2564 ก่อสร้าง 3 ปี (2565-2568)
ทั้งนี้ ตามแผนโครงการจะเปิดให้บริการหลังปี 2568 ซึ่งจะไม่มีผลต่อปัญหาข้อพิพาทเรื่องทางแข่งขัน ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ หรือ NECL แต่อย่างใด เนื่องจากสัญญา โครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด จะสิ้นสุดช่วงปี 2569
ทั้งนี้ การศึกษาประเมินผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ(EIRR) 13% ขณะที่ได้เสนอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไปยังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งข้อมูลเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.)คาดว่าจะได้รับการพิจารณาในปีนี้ นอกจากนี้โครงการมีความพร้อมที่จะนำเสนอขออนุมัติ เนื่องจากมีการออกแบบแล้ว มีการเวนคืนน้อย เนื่องจากใช้แนวเกาะกลางถนนพหลโยธินก่อสร้าง โดยจะเวนคืนประมาณ 9 ไร่ (จำนวน 9 แปลง) บริเวณที่เป็นแลมป์เชื่อมต่อกับโครงการมอเตอร์เวย์ (บางปะอิน-นครราชสีมา) ที่ปลายสายทาง ค่าเวนคืนประมาณ 100 ล้านบาท
โดยจากการศึกษาแนวโน้ม การร่วมลงทุนกับเอกชน ในรูปแบบ PPP Gross Cost จะเหมาะสม และเกิดความคุ้มค่าในการลงทุนโดยอัตราค่าผ่านทางสูงสุดที่ 60 บาทตลอดสาย หรือเฉลี่ย 2-3 บาทต่อกม. เพราะถือเป็นมอเตอร์เวย์ในเมือง ส่วนนอกเมือง เช่น สายบางปะอิน-นครราชสีมา คิดค่าผ่านทางเฉลี่ย 1.25 บาทต่อกม. ส่วนสายบางใหญ่-กาญจนบุรี เฉลี่ยที่ 1.5 บาทต่อกม.
ขณะที่ ปัจจุบันปริมาณจราจรบนถนนพหลโยธินในช่วงดังกล่าวมีจำนวนสูงถึง 2 แสนคันต่อวัน ซึ่รถติดอย่างมาก และคาดว่า จะมีรถขึ้นไปใช้ทางยกระดับประมาณ 20% ซึ่งตลอดสายทางมีจุดขึ้น-ลงจำนวน 8 แห่ง และการที่เชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา จะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวก และแก้ปัญหาคอขวดบนถนนพหลโยธิน
@ เล็งหลังปี 77 บริหารโทลล์เวย์เองตลอดสาย จากดินแดง-บางปะอิน
นอกจากนี้ ทล.ยังให้ศึกษา เพื่อเตรียมรองรับกรณีสัญญาสัมปทาน บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด ช่วงดินแดง-อนุสรณ์สถาน ระยะทาง 20.897 กม. สิ้นสุดในปี 2577 เพื่อจะบริหารจัดการโครงการเองตั้งแต่ดินแดง- อนุสรณ์สถาน , อนุสรณ์สถาน –รังสิต ระยะทาง 7.327 กม. และส่วนต่อขยาย จาก รังสิต – บางปะอิน 18 กม. เป็นโครงการเดียวตลอดสาย 46.224 กม. ซึ่งจะมีการลงทุนในการปรับปรุงระบบที่เก่าให้ทันสมัย รวมถึงซ่อมบำรุงทั้งหมด
ดังนั้นเป็นไปได้ที่อาจจะมีการกำหนดอายุสัญญาในส่วนต่อขยาย จาก รังสิต – บางปะอิน ระยะ 10-15 ปี เพื่อให้สิ้นสุดพร้อมๆ กับสัญญาดอนเมืองโทลล์เวย์ ปี 2577

สำหรับ โครงการทางยกระดับอุตราภิมุขส่วนต่อขยาย จาก รังสิต – บางปะอิน มีจุดเริ่มต้นที่ปลายทางยกระดับอุตราภิมุขปัจจุบัน บริเวณทางแยกต่างระดับรังสิต (ประมาณ กม.33+924 ของถนนพหลโยธิน) จุดสิ้นสุดโครงการอยู่ที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน (ประมาณ กม.1+880 ของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32) ซึ่งสามารถเชื่อมต่อโดยตรงเข้าสู่ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6) รวมระยะทางประมาณ 18 กม.
ครอบคลุมพื้นที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และอำเภอบางปะอิน อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โครงการแบ่งขอบเขตการลงทุนออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 งานออกแบบและก่อสร้างโครงการ ภาครัฐ/เอกชนเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างงานโยธา ช่วงรังสิต-บางปะอิน และเอกชนติดตั้งงานระบบตลอดทั้งโครงการ โดยครอบคลุมช่วงรังสิต-บางปะอิน และช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต (ซึ่งเปิดให้บริการในปัจจุบัน) โดยภาครัฐเป็นผู้จัดหาที่ดิน
ระยะที่ 2 ดำเนินงานและบำรุงรักษา เอกชนเป็น ผู้ดำเนินงานและบำรุงรักษาทั้งโครงการตลอดระยะเวลาสัญญา (ครอบคลุมช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต-บางปะอิน) โดยกำหนดกรอบระยะเวลาร่วมทุนไม่เกิน 33 ปี แบ่งเป็นระยะออกแบบและก่อสร้างโครงการ 3 ปี และระยะเวลาดำเนินงานและบำรุงรักษาไม่เกิน 10 - 30 ปี



กำลังโหลดความคิดเห็น