“ศักดิ์สยาม” สั่ง ทล.-กทพ.ลดค่าทางด่วนและมอเตอร์เวย์ 10% ช่องอัตโนมัติ (M-Pass/ Easy Pass) จูงใจและแก้ปัญหารถติดหน้าด่าน เร่งทดลองนโยบายยกไม้กั้น-ขายคูปอง สั่งประชาสัมพันธ์หวั่นปชช.สับสน ขีดเส้นทดลองรวม 2 สัปดาห์ นำร่องด่านอโศก ด่วนขั้น 2 และด่านทับช้าง มอเตอร์เวย์ ลั่นอีก 1 ปีใช้ AI หักบัญชี โละพนักงาน
วันนี้ (25 ส.ค.) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยถึงแนวทางในการแก้ปัญหาการจราจรหน้าด่านจัดเก็บค่าผ่านทางด่วน และมอเตอร์เวย์ว่า จะต้องหามาตรการจูงใจเพื่อให้ประชาชนหันมาใช้ช่องทางอัตโนมัติมากขึ้น เนื่องจากการผ่านหน้าด่านจะรวดเร็วและใช้เวลาน้อยกว่า ช่องทางเงินสด โดยจะพิจารณาในการลดค่าผ่านทาง 10% สำหรับบัตรอัตโนมัติ ( M Pass) บนด่านมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง (ทล.) และ Easy Pass บนทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ขณะที่ช่องเงินสดเก็บอัตราปกติ
ในส่วนของกรมทางหลวงอยู่ระหว่างหารือกฤษฎีกาว่าสามารถให้ส่วนลดค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ได้หรือไม่ หากกฤษฎีกาบอกว่าทำได้ก็ให้เร่งทำทันที แต่หากทำไม่ได้ จะพิจารณาในการแก้ไข พ.ร.บ.การกำหนดค่าธรรมเนียมบนทางหลวงต่อไป ซึ่งเรื่องนี้หากทำได้เร็วจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ส่วนทางด่วนที่ กทพ.มีสัญญาสัมปทานนั้น ให้ขอความร่วมมือจากเอกชน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีความสะดวกจะมีปริมาณจราจรบนทางด่วนเพิ่ม
***ประชาชนสับสน สั่งเร่งประชาสัมพันธ์ ยกไม้กั้นช่อง Easy Pass/M Pass
สำหรับนโยบายระยะเร่งด่วนในการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางด่วน ในช่องอัตโนมัติ (Easy Pass/M Pass) โดยให้ยกไม้กั้น ในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนช่องเงินสด ให้จัดเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน เพื่อจำหน่ายคูปองเงินสดรถที่รอต่อคิวในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นกันนั้น
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า จากการทดลองและจับเวลา การยกไม้กั้นค้างไว้ที่บริเวณหน้าด่านอโศก 3 พบว่า ช่องอัตโนมัติมีรถผ่านได้ 15 คัน/นาที ช่องเงินสดผ่านได้ 12 คัน/นาที โดยพบปัญหาของช่องอัตโนมัติคือ เมื่อยกไม้กั้นขึ้น ประชาชนจะหยุดรถเพราะไม่แน่ใจคิดว่ามีปัญหาทำให้ไม้กั้นยกค้าง จึงทำให้รถผ่านได้น้อยต่อนาที
ดังนั้น ในสัปดาห์หน้าจึงให้ กทพ. ทำการทดลองวิธีการทั้งช่องอัตโนมัติและช่องเงินสดในห้องปฏิบัติการก่อนเป็นเวลา 7 วัน พร้อมกับทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบด้วย จากนั้นในสัปดาห์ต่อไปให้เริ่มทดลองจริง โดยจะนำร่องที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอโศก 4 (ขาเข้า) ช่วงเวลา 06.00-09.00 น. และด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษอโศก 3 (ขาออก) ช่วงเวลา 16.00-19.00 น. โดยให้เก็บข้อมูลในการทดลองที่ด่านนำร่องเพื่อประเมินก่อนที่จะขยายไปใช้กับทุกด่าน รวมถึงให้ทำแผนในด้านความปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ พบว่าปัญหาการจราจรติดขัดส่วนใหญ่เกิดที่ช่องเงินสด ที่ต้องทอนเงิน และจากปัจจัยภายนอก เช่น การจราจรติดขัดทางลง ซึ่ง กทพ.ต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กทม. ตำรวจจราจร ว่าจะระบายการจราจรถนนด้านล่างอย่างไร
“เท่าที่ดูขณะนี้ปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ช่องเงินสดเพราะรถที่ใช้เงินสดมีจำนวนมากกว่าใช้ Easy Pass จึงคิดว่าการให้เดินขายตั๋วหรือคูปองหน้าด่านจะช่วยทำให้รถผ่านได้เร็วขึ้น”
@ขีดเส้น อีก 1 ปีใช้กล้อง AI หักบัญชีค่าผ่านทาง เลิกใช้ช่องเงินสดและ Easy Pass/M-Pass
นอกจากนี้ ได้มอบนโยบายให้ใช้เทคโนโลยี กล้อง ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ใช้แทนทั้งระบบเงินสดและบัตรอัตโนมัติ โดยให้เวลา 1 ปีในการพัฒนาระบบ รวมถึงเร่งเตรียมพร้อมในการจัดการด้านบุคลกรที่เป็นพนักงานเก็บค่าผ่านทางที่จะต้องปรับไปทำงานส่วนอื่นแทน โดยระบบ AI จะเพิ่มความสะดวกรถผ่านได้เร็วขึ้น ไม่ต้องชะลอรถ ระบบ AI จะตรวจตัวตนของบัตร จำนวนเงินในบัตร และป้ายทะเบียนรถ และหักเงินผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิต ดังนั้นให้เร่งเชื่อมต่อข้อมูลทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจติดตามกรณีมีการฝ่าฝืน ไม่จ่ายค่าผ่านทาง หรือกระทำผิดกฎหมาย
ปัจจุบันทางด่วนมีปริมาณการจราจร 1.9 ล้านเที่ยว/วัน มีสัดส่วนการใช้เงินสด 58% ส่วนบัตรอัตโนมัติ 42% โดยที่ด่านอโศกปริมาณรถเฉพาะวันทำการ จันทร์-ศุกร์ ช่องทางเงินสด 38,579 คัน, Eaay Pass 31,325 คัน ส่วนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ช่องเงินสด 36,594 คัน, Easy Pass 28,319 คัน
สำหรับการแก้ปัญหารถติดหน้าด่านมอเตอร์เวย์. ซึ่งกรมทางหลวงได้นำนโยบายไปทดลองการเดินขายคูปองหน้าด่าน ในส่วนของช่องทางเงินสด ซึ่งนายศักดิ์สยามกล่าวว่า ทล.จะทดลองในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 1 สัปดาห์เช่นกัน จากนั้นในสัปดาห์ถัดไปให้ทดลองจริงที่ด่านทับช้าง เพื่อเก็บสถิติในแต่ละชั่วโมง แต่ละวันนำไปประมวลผลเพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เป้าหมายให้รถติดหน้าด่านหายไป
โดยปัจจุบันบนมอเตอร์เวย์มีสัดส่วนของผู้ใช้บัตรอัตโนมัติ M Pass 27% ที่เหลือใช้เงินสด 73%
“มอเตอร์เวย์จะมีรถบรรทุกใช้ค่อนข้างมาก การทดลองใช้คนเดินขายคูปองหน้าตู้ช่องทางเงินสด ตัวเลขยังไม่นิ่ง ซึ่งอาจจะต้องเพิ่มคนมากขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่กายภาพของด่านอาจจะไม่สะดวกสำหรับการให้คนเดินขายคูปอง10 คน ส่วนช่องทางอัตโนมัติของมอเตอร์เวย์ไม่ค่อยปัญหาเพราะไม้กั้นยกได้เร็ว โดยหลังจากทดสอบในภาคสนามจริงครบ 1 สัปดาห์แล้วจะประมวลผลสมมติฐานที่ตั้งไว้ จะทราบว่าตรงไหนเป็นปัญหา มีคอขวดตรงไหนต้องขยาย ผมเชื่อว่าทั้งหมดจะทำได้”


