ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีซีพี” ทุ่ม 1.3 พันล้านบาทยกเครื่องระบบองค์กรครั้งใหญ่รอบ 60 ปี ชูกลยุทธ์ 3C เติมพลังลุย ดันคนรุ่นใหม่สัดส่วน 20% ผุดหน่วยงานใหม่ “อีบิสิเนส-ศูนย์บ่มเพาะ”
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า ในยุคที่ทุกอย่างในโลกกำลังถูก Disrupt ทุกคนต้องปรับตัว ซึ่งทีซีพีเองต้องปรับโฉมองค์กรสู่การทำงานบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ 5 ปี เพื่อพัฒนาบุคลากรทุกระดับชั้นให้รองรับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมุ่งสร้างยอดขายของกลุ่มให้โตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท ก้าวไปสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ (Multinational Company) ของคนไทยอย่างแท้จริง
นายประกรรษ์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคลและธุรการ กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรใหญ่ที่มีคนหลากหลายมากกว่า 5,000 คน และมีคนรุ่นใหม่ประมาณ 10% มีเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 20% มีอัตราการเข้าออกของพนักงานประมาณ 12-15% โดยเฉลี่ยทั่วไป ทำให้การหลอมรวมให้คนที่มากประสบการณ์กับคนรุ่นใหม่มีความคิดและการกระทำที่คล้ายกันถือเป็นความท้าทาย เราจึงได้ออกแบบการทำงานใหม่ ภายใต้แนวคิด 3C ให้พนักงานทุกคนได้ก้าวข้ามเฟรมเวิร์กเดิมสู่นวัตกรรมใหม่ ประกอบด้วย
1. C1 - เปลี่ยนรูปแบบสำนักงานใหม่ เน้นสร้างนวัตกรรม ลงทุน 740 ล้านบาทสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่รองรับพนักงานใหม่ได้ 250 คน สร้างติดกับสำนักงานปัจจุบัน เนื้อที่ราว 6 ไร่ สูง 4 ชั้น เริ่มก่อสร้างปี 2562 คาดว่าแล้วเสร็จปี 2564
ส่วนสำนักงานปัจจุบันจะปรับปรุงใหม่ กับแนวคิด Open Office พื้นที่ทำงานจึงเปิดโล่ง พร้อมจัดสรรพื้นที่กว่า 30% เป็นพื้นที่ส่วนกลางระหว่างแผนกเพื่อใช้เป็นที่พบปะ แลกเปลี่ยนความคิด ติดตั้งระบบเทคโนโลยีอันทันสมัย เชื่อมต่อการทำงานกับอุปกรณ์ของพนักงานทั้งในสำนักงานใหญ่ สาขาในต่างจังหวัด และสาขาต่างประเทศมี 2 ที่ คือ เวียดนาม กับพม่า
2. C2 - เปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ จะเปิดโอกาสให้พนักงานมี Virtual Office ที่เป็นเสมือนสำนักงานเคลื่อนที่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่สำนักงาน พนักงานอาจจะทำงานที่บ้าน หรือที่ co-working space นำแนวคิดการทำงาน agile และ scrum มาใช้ทำแบบ cross functional และ cross generation
3. C3 - เปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้ง Internet of Things, Virtual Reality, AI, Cloud Computing หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ล้วนมีศักยภาพในการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ จึงลงทุน 560 ล้านบาทนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมการทำงานให้กับทีม ทั้ง virtual office และ AI Chatbot การจัดตั้งทีมงาน ‘Incubator’ ที่สนับสนุนให้พนักงานได้เรียนรู้ ทดลอง และทดสอบไอเดียใหม่ๆ หรือ “ผลิตภัณฑ์หรือบริการต้นแบบ” (Prototype) ของพวกเขา อันจะนำไปสู่การคิดค้นผลิตภัณฑ์ ซึ่งขณะนี้มีการคิดค้นและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บ้างแล้ว
“เราได้ตั้งหน่วยงานใหม่ 2 หน่วย คือ อีบิสิเนส เน้นการทำตลาดออนไลน์ และหน่วยอินคิวเบเตอร์ เพื่อเป็นศูนย์บ่มเพาะคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ซึ่งจะมีเงินเดือนตามปกติแล้วจะมีผลตอบแทนอีกต่างหากเมื่อสำเร็จ ลงทุนอีก 80 ล้านบาท ฝึกอบรม ช่วยเหลือ และเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ทีมงาน จะไม่มีการปลดพนักงาน รวมถึงเปิดรับคนดี คนเก่ง คนรุ่นใหม่ เพิ่มขึ้น” นายประกรรษ์กล่าว
“การปรับโฉมองค์กรเพื่อให้การทำงานอยู่บนดิจิทัลแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์จะแล้วเสร็จภายในปี 2565 ซึ่งจะช่วยเสริมรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่ง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร และผลักดันให้เราก้าวไปสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ” นายประกรรษ์กล่าว
