ผู้จัดการรายวัน 360 - “บีทีเอส กรุ๊ป” ทุ่มเงินกว่า 1,000 ล้านบาทเข้าถือหุ้นใน “อาร์เอส” 68 ล้านหุ้น หรือ 7% ด้านเฮียฮ้อเผยเป็นการผนึกกำลังของสองค่าย หวังต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2562 นี้เป็นปีที่ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการพาณิชย์อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการเริ่มต้น ‘ยุคใหม่’ ภายใต้ Business Model ใหม่ ด้วยธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) สร้างธุรกิจในลักษณะ D to C (Direct to Customer) จึงเปิดกว้างเปิดรับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจในแนวราบ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
ล่าสุด บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ได้ใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท เข้าถือหุ้นในกลุ่มอาร์เอส จำนวน 68 ล้านหุ้น (หรือประมาณ 7%)
การจับมือและเปิดให้บีทีเอส ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ รวมถึงศักยภาพของบริษัทในกลุ่มอย่าง VGI ผู้นำ Offline-to-Online Solutions บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ จะเสริมศักยภาพ (Synergy) ทางธุรกิจ จะเป็นการผสานจุดแข็งของสองบริษัทที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม เชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้า ตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การขยายฐานรายได้ของบริษัทอาร์เอสให้เติบโตสู่เป้าหมาย 10,000 ล้านบาทในปี 2565 ตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าถือหุ้นของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สำหรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจนั้น จะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อการบริหารงานของบริษัท รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้นของนายสุรชัย ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เช่นเดิม
นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นในอาร์เอสครั้งนี้ถือเป็นการเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว โดยบีทีเอสมีแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจกับอาร์เอสได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วยแพลตฟอร์มการเดินทาง ปัจจุบันเราให้บริการผู้โดยสารถึงเกือบ 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน และคาดว่าจะสามารถเพิ่มเส้นทางให้บริการจาก 48.9 กม. ในปัจจุบัน เป็น 133.4 กม. ภายในปี 2564
อีกทั้ง VGI บริษัทในกลุ่ม ซึ่งมี 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีมูลค่าสื่อกว่า 12,000 ล้านบาท 2) ธุรกิจบริการชำระเงินผ่านแรบบิท กรุ๊ป มีผู้ใช้กว่า 18 ล้านคน และ 3) ธุรกิจโลจิสติกส์ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้กว่า 1.2 ล้านคนต่อวัน
ขณะที่ปัจจุบันอาร์เอสได้โฟกัสในธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) ที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งตอบโจทย์ด้วยสินค้ายอดขายกว่า 2,100 ล้านบาทต่อปี โดยเราเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยเกื้อหนุนและต่อยอดธุรกิจระหว่างกลุ่มบีทีเอสกับอาร์เอสให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของทั้งสองบริษัทอีกด้วย
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2562 นี้เป็นปีที่ก้าวเข้าสู่ธุรกิจการพาณิชย์อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการเริ่มต้น ‘ยุคใหม่’ ภายใต้ Business Model ใหม่ ด้วยธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) สร้างธุรกิจในลักษณะ D to C (Direct to Customer) จึงเปิดกว้างเปิดรับพันธมิตรใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขยายธุรกิจในแนวราบ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
ล่าสุด บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) ได้ใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท เข้าถือหุ้นในกลุ่มอาร์เอส จำนวน 68 ล้านหุ้น (หรือประมาณ 7%)
การจับมือและเปิดให้บีทีเอส ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ รวมถึงศักยภาพของบริษัทในกลุ่มอย่าง VGI ผู้นำ Offline-to-Online Solutions บนแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ จะเสริมศักยภาพ (Synergy) ทางธุรกิจ จะเป็นการผสานจุดแข็งของสองบริษัทที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม เชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้า ตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การขยายฐานรายได้ของบริษัทอาร์เอสให้เติบโตสู่เป้าหมาย 10,000 ล้านบาทในปี 2565 ตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าถือหุ้นของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) สำหรับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจนั้น จะไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อการบริหารงานของบริษัท รวมถึงโครงสร้างการถือหุ้นของนายสุรชัย ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เช่นเดิม
นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นในอาร์เอสครั้งนี้ถือเป็นการเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว โดยบีทีเอสมีแพลตฟอร์มที่สามารถเชื่อมและเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจกับอาร์เอสได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วยแพลตฟอร์มการเดินทาง ปัจจุบันเราให้บริการผู้โดยสารถึงเกือบ 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน และคาดว่าจะสามารถเพิ่มเส้นทางให้บริการจาก 48.9 กม. ในปัจจุบัน เป็น 133.4 กม. ภายในปี 2564
อีกทั้ง VGI บริษัทในกลุ่ม ซึ่งมี 3 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านที่มีมูลค่าสื่อกว่า 12,000 ล้านบาท 2) ธุรกิจบริการชำระเงินผ่านแรบบิท กรุ๊ป มีผู้ใช้กว่า 18 ล้านคน และ 3) ธุรกิจโลจิสติกส์ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้กว่า 1.2 ล้านคนต่อวัน
ขณะที่ปัจจุบันอาร์เอสได้โฟกัสในธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) ที่สามารถเข้าถึงลูกค้ากว่า 1.2 ล้านคน ซึ่งตอบโจทย์ด้วยสินค้ายอดขายกว่า 2,100 ล้านบาทต่อปี โดยเราเชื่อว่าการลงทุนครั้งนี้จะช่วยเกื้อหนุนและต่อยอดธุรกิจระหว่างกลุ่มบีทีเอสกับอาร์เอสให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของทั้งสองบริษัทอีกด้วย