“สุริยะ” ตรวจเยี่ยม กนอ. ลั่นเดินหน้าศึกษาการถมทะเล 3 พันไร่ “กนอ.” จ่อลงนามสถาบันปิโตรเลียมศึกษา 6 เดือนรับลงทุน 3.3 แสนล้านของกลุ่มเอ็กซอนฯ และเปิดกว้างรับลงทุนจากรายอื่น ย้ำดูผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ ศก. ลั่นดูผลศึกษาเป็นหลัก พร้อมให้หาที่ราคาต่ำรับลงทุนเอสเอ็มอีสนองนโยบาย “สมคิด” เล็งนิคมฯ สมาร์ทปาร์กประเดิม ขณะที่ท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 พร้อมลงนามปลาย ก.ย.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ว่า เร็วๆ นี้ กนอ.เตรียมลงนามว่าจ้างสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยทำการศึกษาแนวทางการถมทะเลบริเวณท่าเรือแหลมฉบังพื้นที่ 3,000 ไร่ ที่นอกเหนือจากจะรองรับการลงทุนของกลุ่มเอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น มีความสนใจที่จะขยายการลงทุน 3.3 แสนล้านบาทในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ยังศึกษารองรับการลงทุนจากรายอื่นๆ ที่เป็นการเปิดกว้างอีกด้วย โดยคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 6 เดือน
“เอ็กซอนฯ มีโรงกลั่นอยู่แถวท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา การที่เขาจะขยายลงทุนก็เลยอยากได้พื้นที่เพิ่ม 1,000 ไร่ แต่ต้องการที่ใกล้เคียงการลงทุนเดิม แต่ขณะนี้เต็มแล้วก็เลยมองเรื่องถมทะเล ซึ่งผมเห็นว่าการศึกษาก็ควรมองพื้นที่เพิ่มเติมไปเลยที่ไม่ใช่รองรับเอ็กซอนอย่างเดียว และหากผลการศึกษาออกมาที่ดูในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจโดยรวมว่าสามารถดำเนินการได้จึงจะเดินหน้า แต่หากผลศึกษาไม่เห็นด้วยทุกอย่างก็หยุด” นายสุริยะกล่าว
สำหรับกรณีที่มีแรงต่อต้านต่อการถมทะเล นายสุริยะย้ำว่า หากผลศึกษาออกมาแล้วเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวมก่อให้เกิดการจ้างงานและพัฒนาเศรษฐกิจก็พร้อมจะเดินหน้า ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับผลการศึกษา และการถมทะเล หากเกิดขึ้นก็ไม่ได้ถมให้ฟรีๆ ต้องคิดค่าเช่า
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ กนอ.จัดหาพื้นที่รองรับการลงทุนของวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ที่เป็นนโยบายที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้เร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการลงทุน โดยขอให้พิจารณาค่าเช่าที่ดินในราคาที่ต่ำกว่าราคาท้องตลาด ซึ่งให้ กนอ.พิจารณางบประมาณที่มีอยู่และหากไม่พออาจจะพิจารณางบประมาณจากรัฐเพิ่มเติม เบื้องต้นในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กนอ.จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ก 1,500 ไร่ จึงจะกันพื้นที่ส่วนหนึ่งมารองรับ
“ล่าสุดได้หารือร่วมกับผู้บริหาร ปตท.ที่จะเชื่อมโยงการพัฒนาเอสเอ็มอีในพื้นที่อีอีซีไปสู่การเพิ่มมูลค่าในสินค้าเกษตรแปรรูปด้วยการนำระบบห้องเย็นมาบริหารจัดการ ซึ่งนิคมฯ สมาร์ทปาร์กก็จะรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เน้นการเพิ่มมูลค่าอยู่แล้ว” นายสุริยะกล่าว
นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะหารือกับกรมธนารักษ์ที่จะผลักดันให้ราคาที่ดินเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) ของ กนอ.ที่ได้มีการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ อยู่ในการรองรับการลงทุนไปยังภูมิภาคมีราคาที่เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น เบื้องต้น กนอ.ได้พัฒนานิคมฯ สระแก้วซึ่งเป็น SEZ แห่งแรกที่พัฒนาแล้วเสร็จแล้ว 99.9% พร้อมเปิดในเดือน ต.ค.นี้
“ผมมุ่งเน้นให้ กนอ.เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม การดูแลขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เข้มข้นขึ้น” นายสุริยะกล่าว
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ถมทะเล กนอ.ได้ดำเนินการแล้วในส่วนของท่าเรือมาบตาพุดเฟส 1 และ 2 แต่ด้วยเป็นการพัฒนาท่าเรือกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการเท่านั้น ดังนั้น กรณีการถมทะเลเพื่อรองรับการลงทุนเอ็กซอนฯ ต้องรอผลการศึกษาก่อน ซึ่งเบื้องต้นจะมี 3 รูปแบบ คือ 1. กนอ.ลงทุนเอง 2. กนอ.ร่วมกับเอกชน 3. เอกชนพัฒนาทั้งหมด
ส่วนความคืบหน้าท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดเฟส 3 (ช่วงที่1) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักในอีอีซีที่ขณะนี้ร่างสัญญาการร่วมทุนกับกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์ และพีทีที แทงค์ จะส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา 2-3 ก.ย. จากนั้นเตรียมเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ก่อนเสนอ ครม.ต่อไป คาดว่าจะลงนามร่วมทุนได้ปลาย ก.ย.นี้