“สนธิรัตน์” เผยตั้งใจที่จะทำความร่วมมือด้านพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกับกัมพูชาในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ แต่ยอมรับว่ามีความละเอียดอ่อนที่ต้องขอดูให้รอบคอบ พร้อมเล็งถก 4 กระทรวงแก้ปาล์มทั้งระบบแบบยั่งยืน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะเจรจาความร่วมมือด้านพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงประเทศกัมพูชาในเรื่องของพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษารายละเอียดรอบด้าน
“ผมมีความตั้งใจที่จะทำในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความคืบหน้าเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ แต่รายละเอียดคงยังให้อะไรไม่ได้เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และก็คงต้องดูว่าจะสำเร็จหรือไม่อย่างไรด้วย” นายสนธิรัตน์กล่าว
ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะประกันราคาปาล์ม 4 บาท/กิโลกรัม (กก.) แต่บทบาทของกระทรวงพลังงานที่จะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ด้วยการส่งเสริมการใช้น้ำมันบี 10 ให้เป็นน้ำมันพื้นฐานหลัก ที่ปัจจุบันเป็นดีเซลเกรดปกติ (บี 7) และส่งเสริมการใช้บี 20 สำหรับกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อยกระดับราคาปาล์มให้กับเกษตรกร ขณะที่การให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ตามมติ ครม.ที่ยังคงเหลืออีก 1.3 แสนตันนั้น อยู่ที่กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาว่าจะต้องดูดซับมากน้อยเพียงใด หากจำเป็นกระทรวงพลังงานก็พร้อมที่จะดำเนินการมาตรการดังกล่าว
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า นโยบายเรื่องปาล์มได้หารือร่วมกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เบื้องต้นแล้ว ในส่วนของประกันราคาปาล์มฯ จะต้องมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบอีก อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ไปศึกษาแนวทางการส่งเสริมใช้บี 10 เป็นน้ำมันพื้นฐาน และบี 20 ซึ่งจะมีการเสนอผลการศึกษาสัปดาห์หน้า จากนั้นจะนำไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 4 กระทรวงหลักได้แก่ พลังงาน พาณิชย์ อุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป
“ผมอยากเห็นนโยบายบี 10 เป็นแบบมาตรฐาน ไม่ใช่พอปาล์มน้อยก็มาปรับลดเหลือบี 5 เช่นที่ผ่านมา ดังนั้นจึงต้องบูรณาการหลายกระทรวงที่ต้องมองภาพรวม ทั้งพื้นที่เพาะปลูก มาตรฐานโรงสกัด เป็นต้น ส่วนบี 10 จะเป็นน้ำมันพื้นฐานได้ในสิ้นปีนี้หรือไม่ ขอให้ ธพ.สรุปมาก่อน” นายสนธิรัตน์กล่าว
อย่างไรก็ตาม กรณีราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำนั้น ในแง่ของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station จะมีบทบาทสำคัญในการเข้ามาสนับสนุนเพื่อกระจายสินค้าเชื่อเหลือชุมชน โดยเฉพาะโครงการ “ไทยเด็ด” ที่ผ่านมาก็ถือเป็นแนวทางที่เดินมาถูกทาง