xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” รุดตรวจเยี่ยม ก.พลังงาน 15 ส.ค. “สนธิรัตน์” ชูนโยบายพลังงานเพื่อทุกคนผุดโรงไฟฟ้าชุมชน-สตาร์ทอัพพลังงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“สนธิรัตน์” เผย 15 ส.ค.นี้ “สมคิด” เตรียมตรวจเยี่ยมกระทรวงพลังงาน พร้อมโชว์นโยบายพลังงานเพื่อทุกคนปรับแผนดีพีพีเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน เล็งผุดโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อสร้างรายได้ประชาชน พร้อมศึกษาดึงเงินกองทุนอนุรักษ์ฯ หนุนสตาร์ทอัพแจ้งเกิดนวัตกรรมพลังงานของไทย




นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันที่ 15 สิงหาคมนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระทรวงพลังงานเและมอบนโยบายในการขับเคลื่อนพลังงานเพื่อทุกคน โดยมีเป้าหมายให้พลังงานมีส่วนลดภาระรายจ่ายและเพิ่มรายได้ประชาชน รวมถึงการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานระยะยาวเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP-2018) ที่จะให้สอดรับกับสถานการณ์มากขึ้น โดยมีทิศทางที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน โดยจะเร่งรัดให้เกิดโรงไฟฟ้าชุมชนประเภทเชื้อเพลิงจะเหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ และมีระบบสายส่งที่พร้อมรับการซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดทั้งหมดรวมถึงรูปแบบการร่วมลงทุน ซึ่งเบื้องต้นรูปแบบลงทุนจะมีการเปิดให้เอกชนมาร่วมกับภาคประชาชน

“คงจะต้องมาดูรายละเอียดว่าเชื้อเพลิงแต่ละประเภทจะเป็นอย่างไร จุดไหนที่ระบบส่งจะมีความพร้อมรับได้เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยหรือโซลาร์ภาคประชาชนที่อยู่ระหว่างการเปิดให้ยื่นเข้าโครงการนำร่อง 100 เมกะวัตต์นั้นคงจะต้องมาดูว่าติดขัดอะไร ส่วนจะมีการโยกที่เหลือไปเป็นโรงไฟฟ้าชุมชนหรือไม่คงขอดูรายละเอียดก่อน” นายสนธิรัตน์กล่าว

นอกจากนี้ จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็ว หรือ Disruptive Technology กระทรวงพลังงานจึงมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ หรือสตาร์ทอัพ (Startup) ด้านเทคโนโลยีพลังงาน โดยได้มอบให้กระทรวงพลังงานศึกษาถึงการใช้เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่มีอยู่ราว 1.2 หมื่นล้านบาทว่าจะขัดกับระเบียบในการนำมาสนับสนุนได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ได้ก็จะประสานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่มีการจัดตั้งกองทุนที่ส่งเสริมสตาร์ทอัพให้มาพิจารณาสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานเป็นลำดับแรกๆ

ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการศึกษาทิศทางราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ตลาดโลกเพื่อมาพิจารณานโยบายการดูแลราคาแอลพีจีในประเทศ ซึ่งปัจจุบันราคาถูกตรึงไว้ที่ระดับ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักในการอุดหนุน ซึ่งขณะนี้บัญชีแอลพีจียังคงติดลบ 6,188 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่ได้เกินกรอบวงเงินที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ให้ไว้ไม่เกินติดลบ 7,000 ล้านบาท ส่วนการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ได้เปิดประมูลนำเข้า 1.5 ล้านตัน และได้รายชื่อผู้ชนะประมูลไปแล้วนั้นก็อยู่ระหว่างเร่งสรุปเพื่อดำเนินการ โดยจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น