ปรับปรุงแผนดีพีดีชัดเจน “สนธิรัตน์” ลั่นเพื่อให้เข้าถึงทุกกลุ่มดันไทยศูนย์กลางภูมิภาคหวังเชื่อมโยงไฟฟ้ากดค่าไฟพีดีพีให้ต่ำลงจากแผนเดิม พร้อมเปิดทางพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชน สั่งปรับเกณฑ์การใช้เงินกองทุนอนุรักษ์ฯ เอื้อ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “นโยบายและทิศทางอนาคตพลังงานไทย” ในงานสัมมนาหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายที่จะปรับปรุงแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) เพื่อตอบโจทย์ให้พลังงานเป็นของทุกคน ทุกระดับ โดยเฉพาะให้ชุมชนมีส่วนร่วมการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาคที่จะทำให้ไทยสามารถบริหารจัดการความมั่นคงด้านไฟฟ้าซึ่งก็จะทำให้โอกาสของค่าไฟฟ้าในระยะยาวถูกกว่าเดิม
“แผนพีดีพีที่กำหนดไว้ตลอดแผน 20 ปีเดิมนั้นกำหนดค่าไฟเฉลี่ยไว้ที่ 3.57 บาทต่อหน่วยก็น่าจะมีแนวโน้มถูกลงอีกหากเราบริหารได้ตามที่วางไว้ โดยเฉพาะการปรับพีดีพีที่ผมให้เน้นมองจุดแข็งของไทยที่เป็นศูนย์กลางภูมิภาคก็จะสามารถเชื่อมโยงไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี” นายสนธิรัตน์กล่าว
ขณะเดียวกัน ได้มอบให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ศึกษาใช้เงินกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าทำโครงสร้างค่าไฟฟ้าให้ต่างกับค่าไฟทั่วไปใน 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. ผู้ที่อยู่รอบโรงไฟฟ้าจะต้องได้รับค่าไฟฟ้าที่ถูกกว่า 2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะให้เข้าถึงผู้มีรายได้ต่ำจริงๆ
สำหรับการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชนจะดึงให้ชุมชนร่วมกับเอกชนแต่จะกำหนดสัดส่วนการลงทุนให้ชัดเจนเพื่อลดค่าใช้จ่ายและมีรายได้เพิ่ม รวมไปถึงส่งเสริมให้เกิดสตาร์ทอัพ โดยได้มอบหมายให้มีการแก้ระเบียบและวิธีการขอเงินสนับสนุนกองทุนเพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์พลังงานในปีงบประมาณ 2563 ที่มีอยู่ราว 1.2 หมื่นล้านบาทใหม่ที่จะให้สอดรับกับการกระจายการเกิดโรงไฟฟ้าชุมชน
“โรงไฟฟ้าชุมชน หลักการเราจะเน้นพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล ไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงไฟฟ้าจากขยะที่จะต้องหารือกับมหาดไทยในส่วนนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกันนี้ได้มอบให้ไปดูพื้นที่ว่าสายส่งที่ใดจะรับซื้อไฟฟ้าจากชุมชนเพิ่มขึ้นเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงไฟฟ้าได้ทันทีเมื่อมีความชัดเจนก็จะทราบถึงพื้นที่แน่ชัดไม่ต้องไปวิ่งเต้นขอผลิตไฟอย่างที่เคยเกิดขึ้น” นายสนธิรัตน์กล่าว
นายสุวัฒน์ กมลพนัส ประธานกลุ่มพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.เห็นด้วยอย่างมากต่อนโยบายกระทรวงพลังงานที่จะทบทวนพีดีพีโดยเฉพาะการมุ่งพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชน
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า พีดีพี 2018 ยังไม่ตอบโจทย์การพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนของประเทศใน 3 ด้าน คือ 1. ไม่เป็นการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ มีการนำเข้าก๊าซ ถ่านหิน และซื้อไฟฟ้าพลังงานจากต่างประเทศ 2. ยังใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลสูงถึง 80% ไม่ตอบโจทย์การลดปัญหาโลกร้อน และ 3. การผลิตไฟฟ้ายังคงต้องพึ่งพาก๊าซฯ สูงถึง 60% จึงเห็นด้วยที่จะทบทวน