ผู้จัดการรายวัน 360 - “มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.” รุกหนัก ชูไทยตลาดหลัก ปูพรมสาขาในไทยปีนี้หวังเกิน 200 สาขา โฟกัสตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โหมสร้างแบรนด์เน้นประชาสัมพันธ์มากขึ้น พร้อมจ่อรุกช่องทางอี-คอมเมิร์ซ
นางสาวนรินติยา เสาวนีย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประจำประเทศไทย บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ( MR.D.I.Y. ) ผู้ค้าปลีกสินค้าตกแต่งและบูรณะบ้านจากประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกตลาดและขยายธุรกิจของร้านมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.ในไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไทยเองก็ถือได้ว่าเป็นตลาดหลักที่สำคัญแห่งหนึ่งนอกเหนือจากตลาดในประเทศมาเลเซีย เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของบริษัทแม่ที่ประเทศมาเลเซียด้วย โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีร้านมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย. ครบ 1,000 สาขาในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกภายในปีหน้าหรือปี 2563
ในปีนี้ (2562) มีแผนที่จะขยายสาขาในไทยประมาณ 70 สาขา เพื่อที่จะให้ได้ครบ 200 สาขาภายในปีนี้เช่นกัน จากปัจจุบันที่มีสาขาเปิดบริการแล้วประมาณ 160 กว่าสาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มากกว่า 70% และต่างจังหวัดประมาณ 30% โดยปีนี้จะให้ความสำคัญต่อการขยายสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทฯ จะเปิดสาขาควบคู่ไปกับไฮเปอร์มาร์เกตอย่าง เทสโก้โลตัส มากที่สุด รองลงมาคือสาขาในบิ๊กซีเป็นหลัก และเปิดในกลุ่มเซ็นทรัลด้วย ส่วนคอมมูนิตีมอลล์ เช่น แจส มี 3 สาขา พันธุ์ทิพย์พลาซ่า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูแนวโน้มของการขยายสาขาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกนี้คาดว่าสิ้นปีอาจจะมีสาขาถึง 210 สาขาก็เป็นไปได้มากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งสาขาใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิด เช่น สาขาที่เอซีพลาซ่าสายไหม สาขาที่โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ สาขาที่อเวนิวพัทยา สาขาที่โลตัสสมุทรสงคราม
โดยรูปแบบการลงทุนยังคงเป็นการลงทุนเองของบริษัทเต็ม 100% ไม่มีการขายแฟรนไชส์แต่อย่างใด เนื่องจากต้องการควบคุมคุณภาพของธุรกิจ การบริการ สินค้า และแบรนด์ให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งแต่ละประเทศที่เข้าไปทำตลาดบริษัทแม่จะลงทุนเองทั้งสิ้น
นอกจากช่องทางที่เป็นออฟไลน์ หรือร้านค้าแล้ว ก็ยังมีแผนที่จะขยายช่องการจำหน่ายไปสู่ระบบออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็วและความสบาย และการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือที่มากขึ้น โดยในไทยคาดว่าจะเปิดบริการชอปปิ้งออนไลน์หรือระบบชอปปิ้งออนไลน์แบบอี-คอมเมิร์ซได้เร็วๆ นี้ ซึ่งในประเทศมาเลเซียได้เริ่มบริการออนไลน์แล้วไม่นานมานี้
ในส่วนของแผนการตลาด บริษัทฯ จะมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยการประชาสัมพันธ์ โฆษณา และจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ซึ่งปี 2562 นี้จะประชาสัมพันธ์ลงบนสื่อโฆษณาต่างๆ ผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และช่องทางออฟไลน์ควบคู่กันไป โดยการสื่อสารผ่านคอนเซ็ปต์ “รับประกันราคาถูกเสมอ” ในปีนี้เราได้เพิ่มช่องทางการรับรู้แก่ลูกค้าเพื่อที่จะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านสื่อโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ภายใต้สโลแกน “ช้อปกระจายสบายกระเป๋า” โดยสื่อบิลบอร์ดเริ่มตั้งแต่ต้นปีนี้แล้ว ที่พหลโยธิน ขาออก, สมุทรสงคราม กม.48 ขาออก และทางพิเศษศรีรัชทางลงขาเข้าพระราม 4
นางสาวนรินติยากล่าวด้วยว่า สินค้าที่ขายอยู่ในร้านจะมีประมาณ 20,000 รายการ โดยสัดส่วนสินค้า 80% มาจากมาเลเซีย อีก 20% มาจากสินค้าของบริษัทในไทย จากทั้งหมด 9 กลุ่มสินค้า คือ ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนหรือเฮาสโฮลด์ อุปกรณ์ไฟฟ้า สินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ เครื่องเขียน ของเล่น ของขวัญ อุปกรณ์กีฬา อัญมณีและเครื่องสำอาง ซึ่งกลุ่มสินค้าขายดีคือเฮาส์โฮลด์ และฮาร์ดแวร์ แต่ยังไม่มีแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ๆ แต่ว่ามีการปรับเปลี่ยนสินค้าใหม่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ MR.D.I.Y เปิดสาขาแห่งแรกในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2548 และขยายธุรกิจมายังประเทศไทยเมื่อปี 2559 และอินโดนีเซียเมื่อปี 2560 ปัจจุบัน MR.D.I.Y มีจำนวนสาขาในเอเชีย-แปซิฟิกมากกว่า 700 สาขา นอกจากนี้ มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย.ยังมีแผนขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆ ในย่านเอเชีย-แปซิฟิก นอกเหนือจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ประเทศไทย และฟิลิปปินส์ ให้บริการลูกค้ามากกว่า 128 ล้านรายต่อปีที่ร้านสาขาทุกแห่งทั่วมาเลเซีย
สำหรับประเทศไทยเริ่มธุรกิจเมื่อปี 2559 สาขาแรกที่ซีคอนสแควร์ ซึ่งช่วงปีแรกเปิดได้ประมาณ 20 สาขา ส่วนปี 2560 มีประมาณ 70 สาขา และปี 2561 เปิดอีก 66 สาขา รวมเป็น 136 สาขา