xs
xsm
sm
md
lg

กนอ.ลุยพัฒนาระบบคุมเข้มขยะอันตรายนำร่องนิคมฯลำพูน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“กนอ.” เตรียมผุดโครงการบริหารจัดการขยะอันตรายด้วยระบบซอฟแวร์หวังคุมเข้มไม่ให้การขนย้ายเกิดการลักลอบทิ้ง นำร่องศึกษานิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือจ.ลำพูน คาดเริ่มต.ค.นี้หากประสบความสำเร็จจะขยายสู่นิคมฯของกนอ.อื่นๆ พร้อมลุยศึกษาดูเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะประเภทมีสารปรอทของบ.โนมูระเกาะสัน ญี่ปุ่น หวังให้คนไทยตระหนักรู้

นายจักรรัฐ เลิศโอภาส รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ภายในเดือนสิงหาคมนี้กนอ.จะเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการระบบกำกับและติดตามขยะอันตรายที่ออกจากนิคมอุตสาหกรรมซึ่งจะนำร่องดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน ต่อคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงที่มีนายก้อง รุ่งสว่าง กรรมการบอร์ดกนอ.เป็นประธานโดยคาดว่าจะสามารถดำเนินงานได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ซึ่งจะใช้งบประมาณไม่เกิน 12 ล้านบาท

“โครงการนี้จะเป็น Pilot Project โดยจะมอบหมายให้บ.โกบอล ยูทิลิตี้ เซอร์วิส จำกัดหรือGUSCO ซึ่งกนอ.ร่วมทุนดำเนินงาน ซึ่งเป็นการต่อยอดการบริหารจัดการขยะที่เป็นระบบแบบเดิมด้วยการเช่าเครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุกแบบไม่ต้องจอดรถ และใช้ระบบซอฟแวร์เข้ามาบริหารจัดการติดตามรถขนขยะเพื่อป้องกันการลักลอบไปทิ้งเมื่อประสบความสำเร็จก็จะขยายไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆของกนอ.ดำเนินการเอง 12 แห่งทั่วประเทศต่อไป”นายจักรรัฐกล่าว

สำหรับสาเหตุที่เลือกนิคมฯภาคเหนือเนื่องจากมีโรงงานที่ตั้งในนิคมฯ76 แห่งและเป็นโรงงานอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ มีถนนเข้าออกเพียงทางเดียวทำให้การดำเนินงานนำร่องจะสามารถศึกษาถึงการบริหารจัดการขยะอันตรายที่มีรถขนเข้าออกจำนวนมากได้ง่าย ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเองกำลังประสบปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการลักลอบทิ้งไม่ถูกวิธีทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมา

นายจักรรัฐ ยังกล่าวถึงการเดินทางมาศึกษาเทคโนโลยีการกลั่นปรอทขั้นสูงที่โรงงานอิโตมูกะ ของโนมูระเกาะสัน จำกัด ของญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นธุรกิจให้บริการรีไซเคิลขยะประเภทที่ประกอบด้วยสารปรอท และการจัดเก็บของเสียจากสารปรอทที่มีประสิทธิภาพที่ทั่วโลกให้การยอมรับโดยสามารถรวบรวมของเสียที่มีปรอทปนเปื้อนจาก 47 จังหวัดของญี่ปุ่นทั้งแบตเตอรี่แห้ง หลอดฟลูออเรสเซนต์ และของเสียที่มีปรอทอื่นๆ มาผ่านกระบวนการจัดการและเทคโนโลยีการกลั่นปรอทขั้นสูงของบริษัทและสามารถนำปรอทไปแปรสภาพกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้ง

นายก้อง รุ่งสว่าง กรรมการบอร์ดกนอ. กล่าวว่า บริษัทโนมูระเกาะสันเคยมาสำรวจปริมาณขยะที่มีสารปรอทปนเปื้อนแล้วยังมีปริมาณไม่มากพอที่จะเอื้อต่อการเข้าไปลงทุน อย่างไรก็ตามไทยเองก็มีปริมาณขยะเหล่านี้ส่วนหนึ่งส่งมายังญี่ปุ่นเพื่อมากำจัด อย่างไรก็ตามปรอทเป็นสารอันตรายที่หากเจือปนไปกับน้ำใต้ดินจะเกิดอันตรายมากและไทยเองยังไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวซึ่งแหล่งใหญ่ๆของปรอทมาจากแบตเตอรี่ หลอดฟลูออเรสเซนต์ และแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม จึงอยากให้คนไทยตระหนักและทำลายอย่างถูกวิธี
กำลังโหลดความคิดเห็น