เอกชนไทย-เทศยื่นซองประมูลระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่เฟสแรก วงเงิน 1.149 หมื่นล้าน “ITD” ผนึกเจ้าของระบบ “LSIS” จากเกาหลียื่นทั้ง 3 สาย ขณะที่ซีเมนส์ และ CRSC จากจีนยื่น 2 สาย ร.ฟ.ท.คาดสรุปผล ก.ย. เซ็นรับเหมา เริ่มงาน ต.ค. 62
นายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการ กลุ่มบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 23 ก.ค. ร.ฟ.ท.ได้กำหนดให้ยื่นเอกสารประกวดราคาจัดหาและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ในโครงการรถไฟทางคู่ระยะแรก 3 สัญญา ราคากลางวงเงินรวม 11,494 ล้านบาท ซึ่งปิดรับเอกสารเวลา 12.00 น. ปรากฏว่ามีเอกชนเข้ายื่นซองสายใต้ ช่วงนครปฐม-ชุมพร ระยะทาง 169 กม. มี 59 สถานี ราคากลาง 6,250 ล้านบาท ยื่นจำนวน 3 ราย ได้แก่
1. กิจการค้าร่วม CRSC (The Consortium of CRSC Research & Design Institute Group Co.,Ltd and CRSC International Company Limited) 2. บริษัท ซีเมนส์ จำกัด (Siemens Consortium) 3. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD จับมือกับ LSIS จากเกาหลี (The Consortium of Italian-Thai Development Public Company Limited and LSIS Co.,Ltd. comprising Italian-Thai Development Public Company Limited and LSIS Co.,Ltd.)
เส้นทางสายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. มี 18 สถานี ราคากลาง 2,782 ล้านบาท ยื่นจำนวน 4 ราย ได้แก่ 1. บริษัท ซีเมนส์ จำกัด 2. กลุ่มอิตาเลียนไทย จับมือกับ LSIS 3. กิจการค้าร่วม CRSC CRSC 4. กลุ่ม BT-UN consortium หรือกิจการร่วมค้า บีที-ยูเอ็น (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ จับมือ บอมบาดิเออร์ แคนนาดา)
สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. มี 17 สถานี ราคากลาง 2,460 ล้านบาท ยื่นจำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. กลุ่มอิตาเลียนไทย จับมือกับ LSIS 2. Hollysys & SSC & B (BHBR) 3. The Consortium of CASCO Signal Ltd. and CRSC International Company Limited
นายสุจิตต์กล่าวว่า หลังปิดรับซองในช่วงบ่าย คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ประชุมเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาและเกณฑ์การให้คะแนน โดยให้ข้อเสนอ 3 ซอง ได้แก่ ซองคุณสมบัติ ซึ่งเปิดซองทันที โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาคุณสมบัติประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากผ่านคุณสมบัติจะได้รับสิทธิ์เปิดซองเทคนิค โดยตั้งเกณฑ์คะแนนรวมผ่านต้องเกิน 70% จึงจะมีสิทธิ์เปิดซองด้านราคา โดยผู้เสนอราคาต่ำสุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล
คาดว่าจะสามารถสรุปผลการคัดเลือกได้ในเดือน ก.ย. และเร่งนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.เพื่อขอให้ลงนามสัญญาในต้นเดือน ต.ค. เพื่อให้เริ่มงานได้ภายในเดือน ต.ค. 2562
“ถือว่ามีผู้ยื่นประมูลค่อนข้างน่าพอใจ เนื่องจากเป็นการประกวดราคานานาชาติ (International Bidding) ที่เปิดกว้างให้บริษัทผู้ผลิต เจ้าของผลิตภัณฑ์ สามารถยื่นประมูลโดยตรงได้ หรือจับมือร่วมกันมาเป็นกลุ่มได้”