“สนธิรัตน์” เข้ากระทรวงพลังงานวันแรก ลั่นพร้อมบริหารราคาพลังงานไม่ให้เป็นภาระประชาชนและผู้ประกอบการ เพื่อขับเคลื่อน ศก. ประชาชนเข้าถึง เพื่อสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย พร้อมเน้นบริหารโปร่งใสลบภาพลักษณ์ขุมทรัพย์ทางการเมือง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยหลังการเข้ากราบสักการะศาลพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ท่ามกลางการต้อนรับจากข้าราชการระดับสูงเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ว่า นโยบายการทำงานมุ่งเน้นที่จะพัฒนาระบบพลังงานของไทยให้ยั่งยืน รักษาผลประโยชน์ชาติให้ตกแก่ประเทศ และที่สำคัญให้ประชาชนเข้าถึงและมีส่วนร่วมในพลังงาน โดยจะเน้นการบริหารจัดการราคาพลังงานไม่ให้เป็นภาระแก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และผู้ประกอบการ เพื่อเป็นกลไกพื้นฐานการดำรงชีวิตและประกอบธุรกิจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีกระแสการมองภาพลักษณ์กระทรวงพลังงานว่าเป็นขุมทรัพย์และผลประโยชน์ทางการเมืองนั้น เมื่อตนมาบริหารยืนยันที่จะลบภาพดังกล่าว โดยจะเน้นให้ผลประโยชน์ทั้งหมดตกแก่ประชาชน และยึดความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และจะให้พลังงานเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้เพื่อดำรงชีวิต และลดค่าใช้จ่ายให้แก่ชุมชน
“ราคาพลังงานที่จำเป็นทั้งไฟฟ้า น้ำมัน ก็คงจะต้องมาบริหารจัดการไม่ให้กระทบ แม้จะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาก็จะพยายามบริหารไม่ให้เป็นภาระ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ไม่แข็งแรง ส่วนจะเป็นอย่างไรคงจะต้องขอเวลาศึกษารายละเอียดที่จะนำเสนอต่อไปอีกครั้ง” นายสนธิรัตน์กล่าว
สำหรับบทบาทกระทรวงพลังงานในเรื่องของการช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ด้วยการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี 20 และบี 10 นั้นยังคงเป็นทิศทางที่จะมาสานต่อเนื่องจากที่กระทรวงพลังงานดำเนินการไว้ ประกอบกับที่อยู่กระทรวงพาณิชย์ก็ชัดเจนที่จะร่วมกันทำเรื่องนี้ ส่วนราคาบี 20 ที่มีราคาต่ำกว่าบี 7 (ดีเซลเกรดปกติ) 5 บาทต่อลิตรที่จะหมดเขต 31 ก.ค.นี้จะมีการพิจารณาต่ออายุมาตรการนี้หรือไม่นั้น คงจะขอดูรายละเอียดก่อน เช่นเดียวกับกรณีโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ครัวเรือน ที่ตรึงไว้ 363 บาทต่อถัง 15 กิโกลรัม (กก.) ที่ผ่านมาที่ทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชีแอลพีจีติดลบกว่า 6,000 ล้านบาทนั้นคงจะต้องขอดูรายละเอียดว่าระยะสั้นควรจะบริหารจัดการอย่างไรเช่นกัน
“แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP-2018) จะมีการทบทวนใหม่หรือไม่ คงจะรับฟังจากผู้บริหาร เพราะสิ่งนี้ทำมาแล้วเชื่อว่าทุกฝ่ายได้คำนึงถึงประโยชน์ ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ก็จะรับฟังเพื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น ขณะที่กรณีค่าไฟฟ้าฟรีจะเพิ่มเติมความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่ ก็คงต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เป็นต้น” นายสนธิรัตน์กล่าว