ปตท.สผ.ปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณการขาย พร้อมงบลงทุน 5 ปีใหม่ สะท้อนความสำเร็จการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ โดยปีนี้ปรับเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมเป็น 3.45 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิม 3.18 แสนบาร์เรลต่อวัน
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายปริมาณการขายปิโตรเลียม และงบลงทุน 5 ปี (2562-2566) ใหม่หลังจากการเข้าซื้อกิจการ และการได้รับสิทธิการดำเนินงานในแปลงสัมปทานต่างๆ โดยแผนงานต่อไปจะให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินการที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการและในแหล่งก๊าซฯ ที่ชนะการประมูล เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการผลิตปิโตรเลียมรองรับการเติบโตในระยะยาว
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ปตท.สผ.ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์เชิงรุกในหลายๆ ด้าน ทั้งการลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลง G1/61 (แหล่งเอราวัณ) และ G2/61 (แหล่งบงกช) ในอ่าวไทย การชนะการประมูลและได้รับสิทธิในแปลงสำรวจปิโตรเลียมทั้งในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และมาเลเซีย การเข้าซื้อกิจการของบริษัท เมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการเข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 33.8 ในบริษัท อพิโก แอลแอลซี จากบริษัท เทเท็กซ์ ไทยแลนด์
ดังนั้น บริษัทได้ทบทวนแผนการลงทุนในปีนี้และได้ปรับประมาณการรายจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 3,577 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเทียบเท่า 116,246 ล้านบาท จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 3,256 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 107,453 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ประมาณการรายจ่ายข้างต้น ไม่รวมรายจ่ายในการเข้าซื้อกิจการอีกประมาณ 2,086 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 67,795 ล้านบาท)
สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี (2562-2566) ปตท.สผ.ได้ปรับประมาณการรายจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 21,354 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 685,143 ล้านบาท) จากเดิมที่เคยประมาณการไว้ที่ 16,105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่า 525,055 ล้านบาท) โดยมีรายละเอียด ดังนี้ คือ
ปี 2562 มีงบรายจ่ายรวม 3,577ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2563 รายจ่ายรวม 4,064ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2564 รายจ่ายรวม 4,373 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2565 รายจ่ายรวม 5,040 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2566 รายจ่ายรวม4,300ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากแผนงานและการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ ปตท.สผ.ปรับเพิ่มปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย (Average petroleum sales volume) ในปี 2562 ขึ้นเป็น 345,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากเดิมที่ได้คาดการณ์ไว้ที่ 318,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.5 สำหรับปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยต่อวันของปี 2562-2566 ได้ปรับเพิ่ม โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตแบบทบต้น (Compounding Annual Growth Rate : CAGR) ประมาณร้อยละ 7 ดังนี้ คือ
ปี 2562 ปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 345,000 บาร์เรลต่อวัน, ปี 2563 ปริมาณการขาย 365,000 บาร์เรลต่อวัน, ปี 2564 ปริมาณการขาย380,000 บาร์เรลต่อวัน, ปี 2565 ปริมาณขาย 409,000 บาร์เรลต่อวัน และปี 2566 ปริมาณขาย 437,000 บาร์เรลต่อวัน
“ในช่วงที่ผ่านมา ปตท.สผ.ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตามกลยุทธ์เชิงรุก Expand โดยสามารถเข้าซื้อกิจการทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งชนะการประมูลแปลงสัมปทานในต่างประเทศได้ตามแผนที่วางไว้ ต่อจากนี้เราจะให้ความสำคัญต่อกลยุทธ์ Execute โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านสิทธิการดำเนินการ (Transition of Operations) ของแหล่งเอราวัณ และโครงการอื่นๆ ที่เราเข้าซื้อกิจการให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงเร่งรัดการสำรวจในโครงการต่างๆ ที่จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับ ปตท.สผ.ในอนาคต” นายพงศธรกล่าว