ผู้จัดการรายวัน360 – “เยอรมันตะวันแดง” เปิดแนวรบใหม่ ผุดร้านอาหารต่อยอด โรงเบียร์ประเดิมที่ ชลบุรี พร้อมเปิดบริการซูชิบาร์ในโรงเบียร์ รุกตลาดดีลิเวอรี่ ชูโซเชียลมีเดียขยายกลุ่มวัยรุ่น
นายสุพจน์ ธีระวัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงเบียร์ เยอรมันตะวันแดง จำกัด เปิดเผยว่า ทางกลุ่มมีแผนที่จะขยายธุรกิจอื่นต่อเนื่องเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจจากโรงเบียร์มากขึ้น โดยขณะนี้มองไปที่การเปิดร้านอาหาร ชื่อ เดอะเยอรมันตะวันแดง เปิดสาขาแรกแล้วที่อ.อ่างศิลา ชลบุรี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ลงทุน 12-15 ล้านบาท พื้นที่ 2 ไร่
แผนจากนี้ภายใน 2 ปีจากนี้จะเปิดให้ครบ 5 สาขา เน้นทำเลทั่วไปโดยเฉพาะในต่างจังหวัด จับกลุ่มระดับกลาง โดยนำเอาความเชี่ยวชาญและเน้นเมนูอาหารที่เป็นที่นิยมของโรงเบียร์ไปบริการ
ขณะที่โรงเบียร์นั้นจะใช้สื่อโซเชียลและออนไลน์มากขึ้นเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังวัยรุ่นและเริ่มทำงานอายุต่ำกว่า 30 ปีมากขึ้น จากเดิมฐานลูกค้ามีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปมากกว่า 60% และเป็นลูกค้าต่างชาติ 25% (แบ่งเป็น เอเซีย 80% และยุโรป 20%) จะมีการเพิ่มบริการใหม่ต่อเนื่อง แต่ไม่เน้นการเปิดสาขาใหม่ เพราะหากจะลงทุนจะต้องมีความพร้อมทั้งเรื่องทำเลสถานที่ที่เหมาะสม ขนาดพื้นที่ที่ใหญ่เพียงพอ และมูลค่าการลงทุนก็สูงขึ้นด้วย ปัจจุบันหาพื้นที่ลำบากมาก แต่มีโอกาสก็จะพิจารณา ขณะนี้มี 3 สาขาคือ พระราม3ความจุ900 คน เปิดปี2542ลงทุน 60 ล้านบาท, รามอินทรา ความจุ 2,000 คน เปิดปี2548 ลงทุน 120 ล้านบาท และแจ้งวัฒนะ ความจุ 1,300 คน เปิดปี2558 ลงทุน 180 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าลงทุนเพิ่มขึ้นตลอด
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า บริการใหม่ของโรงเบียร์เช่น การบริการดีลิเวอรี่อาหารจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อรองรับพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ชอบความสะดวก และการเปิดบริการซูชิบาร์ในโรงเบียร์ด้วย ได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายจากอาหารญี่ปุ่นเกือบ 10%-15% แล้ว รวมทากรเดเมนูอาหารใหม่ทุก3เดือนและเพิ่มเบียร์ใหม่เช่น โรเซ่ และ ฮอปส์บอมบ์ จากเดิมมี 3 รสชาติคือ ลาเกอร์ ดุงเกล ไวเซ่น และการบริการด้านบันเทิงบนเวทีที่จะมีการแสดงและเทคโนโลยีใหม่มานำเสนอตลอด การจัดคอนเสิร์ตเฉลี่ย 10 ครั้งต่อเดือน ส่วนบริการรับจัดเลี้ยงถือว่าเติบโตดี ปีที่แล้วมีรายได้ส่วนนี้ประมาณ 80 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ารับจัดเลี้ยงจะเติบโต 10%
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ปีที่แล้ว บริษัทฯมีรายได้รวมประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนปี2562นี้คาดว่าจะเติบโต 10% หรือมีรายได้รวม 900 ล้านบาท สัดวส่วนรายได้มาจาก ยอดขายอาหาร 45% เครื่องดื่มรวมเบียร์ 45% และอื่นๆเช่น ค่าบัตรคอนเสิร์ต ค่าบริการดีลิเวอรี่ ค่าสมาชิก (ขณะนี้มีประมาณ 15,000 ราย) เป็นต้น และปีที่แล้วให้บริการลูกค้าทั้งหมดรวมมากกว่า 8.5 แสนคน แบ่งสัดส่วนเป็วสาขาพระราม3 จำนวน 38% สาขารามอินทรา 36% และสาขาแจ้งวัฒนะ จำนวน 26% โดยลูกค้ามีการใช้จ่ายเฉลี่ย 700 – 800 ล้านบาทต่อปี เพิ่มจากอดีตที่ใช้จ่ายเฉลี่ย 300 บาทต่อหัว ล่าสุดปี2562นี้เปิดบริการครบ 20 ปี จึงร่วมมือกับบัตรเคทีซี จัดแคมเปญลุ้นชิงโชคไปประเทศเยอรมันด้วย
