xs
xsm
sm
md
lg

ริโก้ (RICOH) เปิดตัว ‘IM C Series’ เครื่องถ่ายเอกสารอัจฉริยะรุ่นใหม่ มั่นใจครองแชมป์อันดับหนึ่งต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ริโก้ เปิดตัวเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสี A3 รุ่นใหม่ ‘IM C Series’ ภายใต้แนวคิด “Dynamic Workplace Intelligence” เป็นเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Multifunction) รองรับการทำงานด้านเอกสารและข้อมูลขององค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน มั่นใจช่วยเพิ่มยอดขายจากปีที่ผ่านมาและรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง

นายพรชัย วรอังกูร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและบิสซิเนสโซลูชันส์ บริษัท ริโก้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจและองค์กรต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานไปอย่างมาก ซึ่งรวมถึงกระบวนการทำงานด้านเอกสารและการจัดการข้อมูล โดยมีการนำระบบไอทีใหม่ๆ และ AI เข้ามาช่วยในการจัดการข้อมูลและประมวลผล รวมถึงมีการแปลงข้อมูลจากเอกสารที่เป็นกระดาษให้เป็นข้อมูลดิจิทัลเพื่อจัดเก็บและส่งต่อข้อมูลมากขึ้น ในขณะเดียวกันลูกค้าก็มีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และให้ความสำคัญด้านการจัดการด้านต้นทุนที่เข้มงวดกว่าเดิม

ริโก้จึงได้พัฒนาเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันสี A3 รุ่นใหม่คือ ‘IM C Series’ ออกสู่ตลาด เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปลี่ยนไป โดยมีทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่ IM C2000/ C2500/ C3000/ C3500/ C4500/ C6000 มีความเร็วในการพิมพ์ 20/25/30/35/45/60 หน้าต่อนาที มี Ricoh Always Current Technology ช่วยอัพเดทความสามารถใหม่ๆ อยู่เสมอผ่านการอัพเดทเฟิร์มแวร์ และเมื่อใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีอยู่ใน Ricoh Smart Integration ซึ่งเป็นกลุ่มของแอปพลิเคชันที่ทำงานร่วมกับคลาวด์ เช่น Ricoh Automated Data Capture ช่วยแปลงข้อมูลจากเอกสารที่เป็นกระดาษหรือไฟล์ภาพให้เป็นข้อมูลดิจิทัลได้อัตโนมัติ ลูกค้าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในงานทำงานและลดค่าใช้จ่ายไปได้อย่างมาก

พร้อมกันนี้ ริโก้ยังเปิดตัว EZ Plus 2.0 แอปพลิเคชันเสริมที่ติดตั้งบนหน้าจอ Smart Operation Panel ของเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันรุ่นล่าสุด โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้เองง่ายๆ ซึ่ง EZ Plus 2.0 ช่วยให้งานเอกสารของลูกค้าเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขเอกสาร PDF การสแกนต้นฉบับขนาดเล็กพิเศษ เช่น ใบเสร็จ ได้หลายต้นฉบับพร้อมกันทีเดียว โดยแยกไฟล์เป็นหนึ่งต้นฉบับต่อหนึ่งไฟล์เพื่อส่งต่อหรือพิมพ์ออกมา หรือการสร้างเอกสารที่ต้องมีการใช้งานเป็นประจำ เช่น ป้ายชื่อสามเหลี่ยมแสดงชื่อและตำแหน่งสำหรับการประชุม การพิมพ์ซองจดหมายถึงผู้รับหลายคนพร้อมกันในครั้งเดียว ฯลฯ ทั้งหมดนี้ทำได้ภายในเวลาอันรวดเร็วบนหน้าจอเครื่องโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์

ในส่วนของการใช้งาน เครื่องรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับหน้าจอ Smart Operation Panel ขนาด 10.1 นิ้ว ซึ่งมีการตอบสนองต่อคำสั่งที่รวดเร็วและมีเมนูที่เข้าใจง่ายเหมือนกับการใช้งานสมาร์ทโฟน และมีวิดิโอสาธิตการเปลี่ยนหมึกและวัสดุสิ้นเปลือง รวมถึงมีไฟ LED แจ้งตำแหน่งกระดาษติดทำให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้านการสแกน มีความเร็วในการสแกนเอกสารได้สูงสุดถึง 240 หน้าต่อนาที และยังมีอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ ที่ช่วยให้การทำงานด้านเอกสารเร็วขึ้นและประหยัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดพับกระดาษอัตโนมัติที่ช่วยสร้างโบรชัวร์ ใบปลิว หรือจดหมายไดเร็คเมลได้เองโดยไม่ต้องจ้างร้านพิมพ์ภายนอก ชุดสแกนต้นฉบับขนาดเล็ก ซึ่งช่วยให้การสแกนเอกสารที่มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ เช่น เช็คธนาคาร หรือใบเสร็จ ทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้หากลูกค้าต้องการการสแกนเอกสารที่แม่นยำเป็นพิเศษ เครื่องรุ่นนี้ก็มีอุปกรณ์เสริมป้องกันการสแกนต้นฉบับซ้อนกัน เหมาะกับต้นฉบับที่มีความบางกว่าต้นฉบับทั่วไป เช่น ใบแจ้งหนี้ หรือเอกสารทางกฎหมายที่เน้นความถูกต้องของเอกสารที่สแกนเป็นพิเศษ และสุดท้าย เครื่องรุ่นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน BS5609 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของหน่วยงานควบคุมภายในอุตสาหกรรมเคมี สามารถพิมพ์ฉลากได้ตามมาตรฐาน GHS ลูกค้าที่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีจึงสามารถพิมพ์ฉลาก GHS เพื่อติดบนบรรจุภัณฑ์สารเคมีได้เองในต้นทุนที่ต่ำ

ในส่วนของบริการหลังการขาย ด้วย Ricoh Intelligent Support เครื่องรุ่นใหม่นี้ถูกออกแบบให้มีโอกาสเสียน้อยลง และเมื่อมีการเชื่อมต่อเครื่องเข้ากับอินเทอร์เน็ต ลูกค้าจะได้รับความช่วยเหลือในการตรวจสอบและแก้ปัญหาจากระยะไกลได้ทันทีโดยไม่ต้องรอวิศวกรเข้าไปตรวจสอบที่หน้างาน และในด้านความปลอดภัยของข้อมูล เครื่องตระกูลนี้มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในระดับสูงตามมาตรฐานของริโก้ ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล

“ริโก้เชื่อมั่นว่า แม้สถานการณ์การแข่งขันในตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชันในประเทศไทยจะรุนแรงขึ้น แต่ด้วย IM C Series ที่เราเปิดตัวในปีนี้ พร้อมกับโซลูชันและแอปพลิเคชันใหม่ๆ จะทำให้บริษัทสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดไว้ได้ในทุกตลาดคือทั้งสีและขาวดำ โดยในปี 2018 ที่ผ่านมา เรามีส่วนแบ่งการตลาดรวมอยู่ที่ 32% โดยแบ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มเครื่องสี 35% และเครื่องขาวดำ 30% และในปี 2019 เราคาดหวังว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม” นายพรชัยกล่าวปิดท้าย

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องรุ่นใหม่ IM C Series และ Dynamic Workplace Intelligence ได้ที่เว็บไซต์ https://www2.ricoh.co.th/microsite หรือหากสนใจทดลองใช้งานเครื่องจริงสามารถแวะเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่ Ricoh Experience Center ชั้น 6 True Digital Park ใกล้สถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี


กำลังโหลดความคิดเห็น