กนอ.เป็นปลื้มโชว์ศักยภาพนิคมฯ ร่วมดำเนินการและดำเนินการเอง 55 แห่งใน 16 จังหวัด นับตั้งแต่ก่อตั้งมาทำให้เกิดเงินลงทุนสะสมแล้ว 3.8 ล้านล้านบาท ขณะที่เขตส่งเสริมพิเศษในอีอีซีมี 18 แห่ง เงินลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท ล่าสุดจับมือร่วม บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะผุดนิคมฯ โรจนะชลบุรี 2 (เขาคันทรง)
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในไทยขณะนี้มีการจัดตั้งนิคมฯ รวม 55 แห่งใน 16 จังหวัดมีพื้นที่ขาย/เช่าทั้งสิ้น 110,564 ไร่ มียอดขาย/เช่าแล้ว 89,149 ไร่ มีพื้นที่คงเหลือ 21,415 ไร่ เงินลงทุนสะสมปัจจุบันรวม 3.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2561 ที่มียอดรวมประมาณ 3 ล้านล้านบาทโดยเป็นพื้นที่ กนอ.ดำเนินการเอง 14 แห่ง เป็นนิคมฯร่วมดำเนินงาน 41 แห่ง มีผู้ประกอบการ 4,896 ราย อัตราการจ้างงาน 4.79 แสนคน
สำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีทั้งสิ้น 34 แห่งพื้นที่ 134,805 ไร่ ประมาณการเงินลงทุน 1.31 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นเขตส่งเสริมพิเศษรวม 21 แห่ง เงินลงทุน 1.258 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นระยะแรกเงินลงทุน 2.1 แสนล้านบาท บนพื้นที่ 3,608 ไร่ ระยะที่ 2 เงินลงทุน 1.048 ล้านล้านบาท จำนวน 84,634 ไร่
อย่างไรก็ตาม กนอ.เตรียมเสนอบอร์ด กนอ.เห็นชอบในเดือนสิงหาคมหลังผังเมืองมีความชัดเจนเพื่อพิจารณาคำขอเอกชนต่อการจัดตั้งนิคมฯ เป็นเขตส่งเสริมพิเศษเพิ่มเติมก่อนที่จะเสนอไปยังบอร์ดอีอีซี โดยมี 18 โครงการ พื้นที่รวม 35,788 ไร่ แบ่งเป็นโครงการที่จะลงทุนในพื้นที่จังหวัดชะเชิงเทรา 8 โครงการ ชลบุรี 6 โครงการ และจังหวัดระยอง 4 โครงการซึ่งส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มอมตะ และ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น
น.ส.สมจิณณ์กล่าวว่า ล่าสุด กนอ. และบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามสัญญาร่วมดำเนินงานจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมโรจนะชลบุรี 2 (เขาคันทรง) ตำบลเขาคันทรง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่กว่า 900 ไร่ มูลค่าการลงทุนรวม 2,100 ล้านบาท รองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายในอีอีซี คาดว่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนาพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1 ปี พร้อมเปิดรับนักลงทุนที่สนใจเข้าใช้พื้นที่ประกอบกิจการได้ในเชิงพาณิชย์ในปี 256
สำหรับความคืบหน้าโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3 ช่วงที่ 1 ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์รอบที่ 4 เพื่อสรุปความเห็นทุกภาคส่วน จากนั้นจึงจะนำความเห็นสรุปเพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่รับทราบเพราะไม่ทัน ครม.ชุดเดิม