xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแล้ว! สินเชื่อซื้อรถตัดอ้อย-ปรับพื้นที่ปลูกและพัฒนาแหล่งน้ำ 6,000 ล้าน ดบ.2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สอน.-ธ.ก.ส. และ 57 โรงงานน้ำตาล ผนึกกำลังลดการเผาอ้อยแก้ไขมลพิษ ดันโครงการปล่อยสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจรปี 2562-2564 วงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2% ต่อปี หนุนซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรทั้งรถตัดอ้อย รถคีบอ้อย ฯลฯ ปรับพื้นที่ปลูกอ้อยและการจัดการน้ำ



นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า สอน.ได้ร่วมลงนาม (MOU) กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และโรงงานน้ำตาล 57 แห่ง เพื่อดำเนินโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจรปี 2562-2564 ตามมติ ครม.11 มิ.ย. 2562 วงเงินกู้ปีละ 2,000 ล้านบาท รวมวงเงิน 6,000 ล้านบาท ให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันชาวไร่อ้อยฯลฯ ซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็กและใหญ่ เช่น รถตัดอ้อย รถคีบอ้อย รถตัดอ้อยแรปเตอร์ เครื่องสางใบอ้อย ฯลฯ ปรับพื้นที่ปลูกอ้อยและพัฒนาแหล่งน้ำ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี มีโรงงานน้ำตาลเป็นผู้ค้ำประกันและรัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยส่วนเกินให้กับ ธ.ก.ส.3% ต่อปี

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการลดการเผาอ้อย โดยมีเป้าหมายตัดอ้อยสดทั้งหมดในปี 2565 เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษและทดแทนแรงงานคนที่ขณะนี้ขาดแคลนจึงผลักดันให้เกษตรกรไปเผาอ้อย ดังนั้น การซื้อเครื่องจักรจึงเน้นหนักไปเพื่อตัดอ้อยสด เช่น รถตัดอ้อยทั้งเก่าและใหม่ โดยเฉพาะรถตัดขนาดเล็กที่ตัดอ้อยเป็นลำ หรือแรปเตอร์ซึ่งผลิตในประเทศ ราคาเพียง 3 แสนบาทต่อคัน รวมไปถึงรถนำเข้าจากต่างประเทศแต่จะต้องนำเข้ามาในไทยแล้วไม่เกิน 2 ปี อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมให้เกิดธุรกิจรับจ้างตัดอ้อยได้อีกทางหนึ่งด้วย

ขณะเดียวกัน สินเชื่อดังกล่าวยังมีวัตถุประสงค์สนับสนุนซื้อรถแทรกเตอร์ หรือรถบรรทุก แต่อัตราดอกเบี้ยจะคิด 4% ต่อปีแต่ก็ยังถือเป็นดอกเบี้ยผ่อนปรนต้นทุนต่ำ ส่วนการปรับพื้นที่ปลูกอ้อย และพัฒนาแหล่งน้ำจะสนับสนุนเงินกู้ไม่เกินรายละ 5 แสนบาทและวงเงินกู้แต่ละรายเมื่อรวมทุกวัตถุประสงค์แล้วต้องไม่เกิน 29 ล้านบาทต่อราย หากเกษตรกรพร้อมก็เริ่มกู้ได้ทันทีที่ ธ.ก.ส.สาขาใกล้บ้าน ซึ่งมาตรการดังกล่าวปีแรกจะสิ้นสุด ก.ย. 2562

“กรณีประกาศกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับการห้ามนำเข้ารถเก่านั้น ยืนยันว่ารถตัดอ้อยไม่ได้เข้าข่ายดังกล่าว แต่กรณีรถแทรกเตอร์อาจจะเข้าข่าย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีการนำเข้าอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน กรณีรถตัดอ้อยที่ปลอดภาระหนี้แล้วยังสามารถนำไปจดทะเบียนเครื่องจักรซึ่งได้ประสานไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) แล้วเพื่อนำไปค้ำประกันในการขอสนับสนุนสินเชื่อกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีดีแบงก์) ดอกเบี้ยผ่อนปรนขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ ซึ่งจะเห็นว่ามีหลายมาตรการ เราจึงทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกอ้อย แจ้งถึงสินเชื่อดังกล่าวและการลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ที่จำเป็นต้องใช้กลไกการดูแลทางจังหวัดมาสนับสนุน” เลขาฯ สอน.กล่าว

นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ปกติการปล่อยสินเชื่อของ ธ.ก.ส.ในโครงการต่างๆ ที่ผ่านมาเราคิดอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปีแต่โครงการนี้ลดเหลือ 5% (รัฐจ่ายชดเชย 3%) ซึ่งไม่ได้คิดกำไรอะไร เกษตรกรรับภาระแค่ 2% ทุกฝ่ายได้สนับสนุนกันอย่างเต็มที่ในการที่ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ซึ่งเราก็ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อให้มากที่สุด คือ 2,000 ล้านบาท และยืนยันว่าการปล่อยสินเชื่อจะเร็วมากเพราะโรงงานน้ำตาลเป็นผู้ค้ำประกันอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น