ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดเอเชียเป็นเป้าหมายสำคัญของนาฬิกาโลกโดยเฉพาะสวิสแบรนด์ เผยไทยติดท็อป 15 นำเข้าจากสวิส ตลาดรวม 2.5 หมื่นล้านบาท กลุ่มไฮเอนด์ตลาดใหญ่สุด ชี้กลุ่มสมาร์ทวอทช์มาแรงโต 10% จัดแคมเปญเด็ดลดราคาในงาน
นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “จากผลวิจัยของ BRANDZ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยทางการตลาดและสื่อสารการตลาดระดับโลก ระบุว่า ในปี 2562 ภาพรวมของตลาดแบรนด์ระดับลักซ์ชัวรี่ เติบโต 29% หรือมูลค่า 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2 ล้านล้านบาท) ทำให้ตอนนี้มีมูลค่าตลาดรวม 171,300 ล้านเหรียญสหรัฐ (5.3 ล้านล้านบาท)
ทั้งนี้ ตัวเลขจากงานบาเซิล เวิลด์ ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ระบุว่า มูลค่าการส่งออกนาฬิกาสวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าถึง 2.1 หมื่นล้านฟรังก์สวิส หรือราว 6.7 แสนล้านบาท โดยมีตลาดเอเชียเป็นแกนนำหลัก ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 53% เพิ่มขึ้น 12.2% และฮ่องกงยังคงเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ด้าน สหรัฐอเมริกา ยังมีส่วนสร้างให้ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจดำเนินไปเป็นอย่างดี มีอัตราส่วน 14% ขณะที่ยุโรปยังคงเป็นตลาดที่สำคัญ ด้วยอัตราส่วนทางการตลาด 31%
“ตลาดนาฬิกาในเอเชียยังคงเป็นที่สนใจของแบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับประเทศไทยเองติดอันดับ 15 ของโลกที่นำเข้านาฬิกาจากสวิส โดยตลาดนาฬิกาหรูระดับลักชัวรี ยังคงเป็นเป็นอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่ให้ความสนใจมากกว่าผู้หญิง และนิยมซื้อเพื่อเป็นของขวัญให้ตัวเองหรือการสะสมเพื่อเพิ่มมูลค่าและการลงทุน”
สำหรับงานสยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2019 จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE RHYTHM OF TIMEPIECES” นับเป็นงานมหกรรมที่รวบรวมความสุดยอดของประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาจากทั่วโลกกว่า 180 แบรนด์ชั้นนำ รวมกว่า 30,000 เรือน มารวมกันไว้ในงานเดียว โดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 13 ซึ่งถือเป็นการอัพเดทเทรนด์นาฬิกาที่ส่งตรงมาจากงานบาเซิล เวิลด์ นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการแสดงเรื่องราวความเป็นมาอันทรงคุณค่าของเรือนเวลาแบรนด์ต่างๆ ที่จะมอบประสบการณ์และความรู้แก่วอทช์ เลิฟเวอร์ โดยเราได้เนรมิตพื้นที่บริเวณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, คริสตัล คอร์ท แผนกนาฬิกา พารากอนดีพารท์เมนต์สโตร์ ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์, แฟชั่น แกลเลอรี, สตาร์โดม, เมน ฮอลล์ 2 ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอนให้เป็นสถานที่จัดแสดงนาฬิกาครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งงานจะมีระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม - 7 สิงหาคมนี้ ด้วยงบประมาณจัดงานกว่า 45 ล้านบาท
ในปีนี้คาดว่านาฬิกาแบรนด์หรู นาฬิการุ่นลิมิเต็ด หรือรุ่นพิเศษฉลองครบรอบต่างๆ ในกลุ่มไฮเอนด์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Franck Muller, Breitling, Hublot, Ulysse Nardin, Nomos Glashütte และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ เพราะยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดนักสะสมหรือคนชอบนาฬิการุ่นพิเศษ นอกจากนี้นาฬิกาในกลุ่มสมาร์ท วอตช์ ก็ยังคงเติบโตสูงขึ้นราว 10% จากเดิม 1.2% ซึ่งการจัดงานครั้งนี้คาดการณ์ว่าโปรโมชันส่วนลด และของสมนาคุณมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาทนั้นจะเป็นตัวช่วยที่ช่วยกระตุ้นยอดและสร้างเม็ดเงินสะพัดในงานไม่ต่ำกว่า 360 ล้านบาท”
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล Chief Business Officer - Specialty Business บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “วอตช์ แกลอเรีย (WATCH GALLERIA) NO.1 OF WATCH DESTINATION เป็นเดสติเนชั่นของคนรักนาฬิกาอย่างแท้จริง ที่รวบรวมนาฬิกาแบรนด์ดังทั่วทุกมุมโลกมากที่สุดกว่า 100 แบรนด์ รวมกว่า 10,000 เรือน บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 9 สาขาพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มรวมถึงนักสะสมนาฬิกา
ปัจจุบันนาฬิกาเป็นมากกว่าเครื่องบอกเวลาและเครื่องประดับชิ้นสำคัญที่สามารถสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ความเป็นตัวตนและคาแรคเตอร์ของ ผู้สวมใส่ได้อย่างชัดเจน มีให้เลือกหลากหลายทั้งดีไซน์และฟังค์ชั่นการใช้งานซึ่งมีหลายระดับราคา WATCH GALLERIA จึงจัดกลุ่มนาฬิกาเป็น 5 คาแรกเตอร์ ได้แก่ LUXE, MODERN, ADVENTURE, SIMPLIFY และ FUN
นอกเหนือจากแบรนด์นาฬิกาครบครันที่สุดอย่างเต็มรูปแบบ ภายใน WATCH GALLERIA ยังรวบรวมนาฬิกาคอลเลกชันล่าสุดไปจนถึงคอลเลกชันเอ็กซ์คลูซีฟที่หายากส่งตรงจากงาน Basel World และ SIHH ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของงานนาฬิการะดับโลก เพื่อให้ลูกค้าได้ครอบครองนาฬิกาเรือนพิเศษก่อนใคร รวมทั้งนาฬิการุ่นลิมิเต็ด เอดิชัน ที่จะมีมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถติดตามและอัปเดตเทรนด์นาฬิกาใหม่ รวมถึงข้อเสนอและสิทธิพิเศษต่อเนื่องตลอดทั้งปีสำหรับลูกค้า WATCH GALLERIA โดยเฉพาะอาทิ นิทรรศการนาฬิกาที่หาชมได้ยาก รวมไปถึงกิจกรรมพิเศษที่แบรนด์นาฬิกาต่างๆ จัดขึ้นเพื่อลูกค้า WATCH GALLERIA โดยเฉพาะ
สำหรับภาพรวมตลาดนาฬิกาในประเทศไทยมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ นาฬิการะดับลักซ์ชัวรี่ (500,000 บาท ขึ้นไป) สัดส่วนตลาด 20%, นาฬิกาไฮเอนด์ (100,000-500,000 บาท) สัดส่วนตลาด 34.85%, นาฬิกามิดเอนด์ (20,000-100,000 บาท) มูลค่าตลาด คิดเป็น 30.62% และนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ (5,000-20,000 บาท) มูลค่าตลาด คิดเป็น 14.53% มีอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 3% ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจ
นอกจากนี้ WATCH GALLERIA ยังเป็นผู้นำในการจัดงานแสดงนาฬิการายใหญ่ในเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี อาทิ สยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2019 เป็นงานที่รวบรวมนาฬิการะดับเวิลด์คลาสที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของตลาดนาฬิกาทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชีย ขณะนี้แบรนด์นาฬิการะดับโลกให้ความสำคัญและสนใจตลาดเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่ได้รับความสนใจเป็นตลาดหลักในเอเชีย จึงมีการผลิตนาฬิกาตอบรับคนเอเชียมากขึ้น สินค้ามีให้เลือกหลากหลายคอลเลคชั่น ส่งผลให้ยอดขายนาฬิกาเติบโตได้ดี ทั้งในกลุ่มผู้ใช้ นักสะสม และนักลงทุน โดยมีรายละเอียดของงานดังนี้
POP UP จากแบรนด์นาฬิกาชั้นนำส่งตรงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อาทิ GUCCI, LONGINES, GRAND SEIKO, CORUM, RADO, FREDERIQUE CONSTANT เป็นต้น โดยนำคอลเลคชั่นล่าสุดส่งตรงจากงาน Basel World เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกจับจองเป็นประเทศแรกใน Southeast Asia ทั้งนี้ภายในงานมีนิทรรศการที่น่าสนใจอาทิ นิทรรศการนาฬิกา SWATCH FLYMAGIC นาฬิการุ่นแรกที่เป็น Hi-End โดยไทยได้รับสิทธิ์ในการจำหน่าย 1 ใน 15 ประเทศทั่วโลก เปิดตัว 3 รุ่น โดยผลิตจำกัดเพียง 500 เรือนต่อรุ่นเท่านั้นทั่วโลก โดยจัดแสดงนิทรรศการ ระหว่างวันที่ 9-14 กรกฎาคม 2562 ที่ HALL OF FAME ชั้น M สยามพารากอน และนิทรรศการแบรนด์อื่นถึง 7 สิงหาคม 2562
สินค้าลิมิเต็ด เอดิชัน และสเปเชียล คอลเลกชันพิเศษ สำหรับสยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2019 มากกว่า 30 แบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าได้จับจองเป็นที่แรกก่อนใครในโลก ได้แก่ GRAND SEIKO รุ่น ELEGANCE COLLECTION, CORUM รุ่น ADMIRAL AC-ONE 45 DOUBLE TOURBILLON, ORIS รุ่น OCEAN TRILOGY SET ประกอบไปด้วย ORIS BLUE WHALE, ORIS GREAT BARRIER REEF และ ORIS CLEAN OCEAN, RADO รุ่น CAPTAIN COOK LIMITED EDITION, TISSOT รุ่น MOTO GP 2019 LIMITED EDITION, SEIKO รุ่น PROSPEX LX LINE SPRING DRIVE, SEIKO รุ่น PROSPEX ZIMBE NO.11 THAILAND LIMITED EDITION , CASIO รุ่น MTG-B1000RB และ SWATCH รุ่น FLYMAGIC
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีนาฬิกาที่อัญเชิญตราสัญลักษณ์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่ประชาชนสามารถสะสม ได้แก่ WISE ผลิตจำนวน 20,000 เรือน และ KLASSE 14 ผลิตขึ้นจำนวนทั้งสิ้น 1,000 เรือน แบ่งเป็นรุ่นสำหรับคุณสุภาพบุรุษ ตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร จำนวน 600 เรือน และรุ่นสำหรับสุภาพสตรี ตัวเรือนขนาด 36 มิลลิเมตร จำนวน 400 เรือน พร้อมสลักหมายเลขประจำตัวเรือนไว้ที่ฝาหลังทุกเรือน บรรจุในกล่องสีเหลืองที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ และมีจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น
สำหรับกิจกรรมสุดพิเศษ ภายในงานสยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2019 ที่ลูกค้าได้ใกล้ชิดกับสินค้ารุ่นพิเศษและดาราชั้นนำที่จะมานำเสนอนาฬิการุ่นใหม่ เช่น SWATCH, GUCCI, LONGINES RADO และ KLASSE 14 โดยจะมี มาริโอ้ เมาเร่อ, มีน พีชญา และแต้ว ณัฐพร เป็นต้น
โดยในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมาแต่ละแบรนด์หันมานำเสนอกลยุทธ์รูปแบบใหม่ๆ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ อาทิ การทำนาฬิการุ่นพิเศษร่วมกับศิลปิน, ดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ได้แก่ CITIZEN เปิดตัวแบรนด์ พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ นำเสนอนาฬิกา CITIZEN รุ่น PROMASTER SKY Blue Angels ให้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย, RADO นอกจากได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สาวสวยอย่าง แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ยังร่วมกับ แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล แฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดัง ออกแบบนาฬิกา RADO รุ่น DiaMaster Prajun ฯลฯ รวมถึงการเพิ่มไลน์สินค้าให้หลากหลายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้ออย่างต่อเนื่อง และแบรนด์ FREDERIQUE CONSTANT ที่เพิ่งเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ คือ คุณมีน พีชญา
สำหรับกลยุทธ์ของ WATCH GALLERIA ในปีนี้มี 3 ปัจจัยหลักที่จะผลักดันยอดขายให้เติบโตและสร้างความตื่นเต้นให้ตลาด ได้แก่
1. Smart watch ที่เพิ่มจำนวนแบรนด์และรุ่นออกสู่ตลาด โดยทาง WG จะขยายการจำหน่ายให้ครบทุกสาขาภายใน Quarter4 เพื่อตอบรับกระแสการเติบโตของสินค้า segment นี้ 2. Mid Luxe watch ที่ทาง WG จะขยายสาขา รวมถึงการนำรูปแบบ concept จากสวิสเซอร์แลนด์ ไปยังสาขาของเดอะมอลล์เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อที่อาศัยอยู่รอบเมือง 3. On line market ที่ทาง WG จะ Launch ร่วมกับ Lazada ในเดือนตุลาคมนี้ซึ่งถือเป็น shop นาฬิกาแรกที่จะเปิดผ่านช่องทาง on line เป็นที่แรก ครั้งแรก โดยจะมีสินค้ากว่า 100 sku 20 แบรนด์ในช่วงเปิดตัว และจะมีถึง 50 แบรนด์ให้ลูกค้าได้เลือกชอปในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้เพื่อดึงฐานลูกค้าต่างจังหวัดที่ทางห้างจะขยายไปไม่ถึง โดยประมาณการยอดขายที่ 5 ล้านบาท ในช่วงตุลาคมถึงธันวาคม 2562
สำหรับเทรนด์นาฬิกาที่ได้รับความนิยมในปีนี้ คือ การมิกซ์แอนด์แมตช์ X FASHION, AFFORDABLE PRICE และนาฬิกากลุ่มสีเขียว น้ำเงิน เทา สีรุ้ง โดยเน้นที่กลุ่ม Hi-End และ Sport Trend ยังมีการเติบโตของยอดจำหน่ายสูงสุดในภาพรวมของตลาดนาฬิกา
สำหรับภาพรวม วอตช์ แกลอเรีย (WATCH GALLERIA) มีส่วนแบ่งตลาดนาฬิกา 10% จากภาพรวมของตลาดนาฬิการีเทลมีมูลค่า 15,000 ล้านบาท คาดว่างานสยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป ช่วยกระตุ้นยอดขายให้เติบโตขึ้นกว่า 12% ด้วยโปรโมชันสุดพิเศษ และด้วยเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่หลังเลือกตั้งที่ผ่านมา ประกอบกับผู้ประกอบการแบรนด์นาฬิกาชั้นนำทยอยออกคอลเลกชันใหม่ ด้วยราคาและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของ ปี 2562 วอทช์ แกลอเรีย ตั้งเป้าเติบโตขึ้น 5% การจัดงาน สยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป ในครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะสร้างความสนใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบและนักสะสมนาฬิกาชาวไทยและต่างประเทศตลอดจนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มประเทศแถบเอเชียและชาวไทยได้เป็นอย่างดี” คุณจักรกฤษณ์กล่าวสรุป
นอกจากนี้ สยามพารากอนยังได้เตรียมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ
• Fashion & Trends ลดสูงสุด 50%*
• M Card ลดเพิ่มสูงสุด 8%
• M Card ลดเพิ่ม 12.5%* เมื่อใช้คะแนนแลก แต่ไม่เกินยอดซื้อ
• รับฟรีคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 130,000 บาท*
• Special Big Bonus รับคูปองส่วนลดเงินสดมูลค่า 1,000 บาท* ในวันเสาร์ที่ 13, 20 และ 27 ก.ค. 62
• พิเศษ! สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้ ลุ้นรับรางวัล TOP Spender* (เมื่อชอปครบ 200,000 บาทขึ้นไป ) ที่พัก 3 วัน 2 คืนจาก SALA Samui Chaweng Beach Resort จำนวน 3 รางวัล และ AVIS Car rental จำนวน 9 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 30,000 บาท
• รับสิทธิ์แลกซื้อนาฬิกาในราคาพิเศษ* (เมื่อชอปครบ 10,000 บาทขึ้นไป)
• พิเศษ! รับส่วนลดเพิ่มสำหรับสมาชิกบัตร PLATINUM M CARD* (รับ M CASH COUPON สูงสุด 30,000 บาท)
• ลดเพิ่มสูงสุด 35%* + 25%*
• แบ่งชำระ 0%* ทุกชิ้นนานสูงสุด 10 เดือน
“สยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2019” (SIAM PARAGON WATCH EXPO 2019) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม - 7 สิงหาคม 2562 ณ บริเวณพื้นที่จัดแสดง ชั้น M และชั้น 1 สยามพารากอน, ฮอลล์ ออฟ เฟม, คริสตัล คอร์ท, เมน ฮอลล์ 2, WATCH GALLERIA ชั้น M, แฟชั่น ฮอลล์, แฟชั่น แกลลอรี 1, ลานหน้าร้าน JASPAL, พื้นที่รอบวอยด์ทางเดิน, พื้นที่ฝั่งสตาร์โดม สยามพารากอน และต่อเนื่องที่แผนกวอตช์ แกลเลอเรีย เดอะมอลล์ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม, พารากอน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์ และบลูพอร์ตหัวหิน จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2562
