ผู้จัดการรายวัน 360 - “มาม่า” ทุบสถิติ ยอดขายครึ่งปีแรกพุ่ง 11.6% พร้อมกวาดแชร์เพิ่มอีก 3% รวดในรอบเดียว เป็น 51% แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เผยรสชาติใหม่และกลุ่มพรีเมียมช่วยดันรายได้ พร้อมแจ้งเกิดข้าวต้มสำเร็จรูป
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดขายรวมของมาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงครึ่งแรกปี 2562 นี้มีการเติบโตมากถึง 11.6% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีว่าทั้งปีนี้จะเติบโต 5% หรือมีรายได้รวมครึ่งปีแรกที่ 4,600 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตเพียง 6.5% เท่านั้น จากมูลค่าตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีประมาณ 20,000 กว่าล้านบาท
ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของมาม่าในครึ่งแรกปี 2562 นี้ก็เพิ่มขึ้นมาอีก 3% รวมเป็น 51% เป็นผู้นำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นมามากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ว่าส่วนแบ่งจะเพิ่มขึ้นมารวดเดียวมากถึง 3% แบบนี้ทำให้ทั้งปีนี้คาดว่ามาม่าโดยรวมจะเติบโต 10.5% มากกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 5% และมีรายได้รวม 10,350 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวมปีนี้จะเติบโตประมาณ 6% ซึ่งก็มากกว่าปกติที่จะเติบโตเพียง 1-2% เท่านั้น
“ปกติที่ผ่านมามาม่าต้องพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้มากที่สุดนานที่สุดก็เก่งแล้ว จากตลาดรวมที่มีการแข่งขันกันสูงมาก แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปีที่มาม่าเกิดขึ้นมาเลยก็ว่าได้ ที่ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นมารวดเดียวถึง 3% และโตมากถึง 11% ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามาม่าก็เป็นผู้นำมาตลอดมีส่วนแบ่งเฉลี่ยกว่า 50% มีบางช่วงที่ส่วนแบ่งอาจจะลดลงบ้างเหลือ 47% แต่ก็เป็นผู้นำเสมอ” นายเวทิตกล่าว
ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่มาม่ามีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นมาก และมีการเติบโตมากขึ้นนั้น เนื่องมาจากว่าเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วแบรนด์ มาม่าโอเค ได้ออกรสชาติใหม่ คือ รสผัดไข่เค็ม และรสฮอตโคเรียนในรูปแบบแห้ง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเป็นกระแสในกลุ่มผู้บริโภค ทำให้ยอดขายเติบโตอย่างมาก ส่งผลให้ต้องลงทุนด้านเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มกำลังผลิตจากเดิม 16,000 หีบต่อปี เป็น 50,000 หีบต่อปี
อย่างไรก็ตาม นายเวทิตกล่าวว่า การออกรสชาติใหม่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราโตมาก รวมทั้งการที่ภาครัฐบาลได้ออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาทำให้กลุ่มรากหญ้ามีกำลังซื้อเพิ่มด้วย ในส่วนของสินค้ารสชาติเดิมนั้นโตน้อยประมาณ 1% เท่านั้นเอง คือ มาม่าซอง 6 บาท แต่ที่เราโตมากเพราะมาม่าออกรสชาติใหม่ และมุ่งเน้นกลุ่มพรีเมียมคือ มาม่าโอเค ที่มีราคาสูงกว่า ทำให้มาม่าโอเคของเราโตมากถึง 300% และมีส่วนแบ่ง 30% จากรายได้รวมของเรา และที่สำคัญ มาม่าโอเคของเราราคา 15 บาท โตเพราะไปแย่งแชร์จากพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่นำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาสูงกว่าไม่ต่ำกว่า 50 บาทขึ้นไปต่อซอง
นายเวทิตย้ำว่า มาม่าไม่ได้เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจแต่อย่างใด แต่ว่าเมื่อเศรษฐกิจดีมาม่าก็มียอดขายเติบโตมาก เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีมาม่าก็โตน้อย
ในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการออกรสชาติใหม่ การจัดแคมเปญ และการส่งเสริมการขาย โดยมีแผนที่จะออกสินค้าใหม่อีก 5 ตัว คือ มาม่าข้าวต้มคัพ 3 รสชาติใหม่ คือ รสเล้งแซบ รสซุปไข่สาหร่าย และรสกุ้งกระเทียม พร้อมขยายโปรดักต์ไลน์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าออเรียนทัลคิตเชน หรือมาม่า OK จากรูปแบบซองเป็นถ้วยใหญ่ (CUP) อีก 2 รสชาติ คือ มาม่าคัพ OK รสฮอตโคเรียน แบบแห้ง ไซส์ใหญ่ 80 กรัม และมาม่าคัพ OK รสผัดไข่เค็ม แบบแห้ง ไซส์ใหญ่ 80 กรัม จากเดิมเป็นแบบซอง น้ำหนัก 60 กรัม
นายเวทิตกล่าวว่า ตลาดข้าวต้มสำเร็จรูปก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่มาม่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งจากเดิมตลาดรวมข้าวต้มสำเร็จรูปมีมูลค่าเพียง 15 ล้านบาทเท่านั้น แต่เมื่อปี 2560 ที่มาม่าเริ่มทำตลาดด้วยการออกรสชาติข้าวต้มหมูกระเทียมและรุกตลาดอย่างหนัก ทำให้ปีที่แล้วตลาดรวมเพิ่มเป็น 60 ล้านบาท และคาดว่าจากการรุกตลาดอย่างหนักของมาม่าจะทำให้ตลาดรวมข้าวต้มสำเร็จรูปในปี 2563 เพิ่มเป็น 190 ล้านบาท ซึ่งประกอบไปด้วย ข้าวต้มแบบซองที่ต้องต้ม ข้าวต้มแบบซองที่ไม่ต้องต้ม และข้าวต้มแบบคัพที่ไม่ต้องต้ม ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ ข้าวต้มสำเร็จรูปถือเป็นตลาดที่มีอนาคต แม้ว่าจะยังเล็กอยู่เมื่อเทียบกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และโจ๊กสำเร็จรูปที่มีมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาทแล้ว
“มาม่าตอกย้ำแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วยการพัฒนาสินค้าที่ครองใจผู้บริโภค ซึ่งในปีนี้เราได้เพิ่มสินค้าให้เป็นทางเลือกที่หลากหลายขึ้น โดยเน้นการต่อยอดความสำเร็จจากสินค้าเดิมที่ได้รับความนิยม ที่ผ่านมาสินค้าข้าวต้มคัพ รสหมูสับกระเทียมพริกไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เราจึงได้พัฒนามาม่าข้าวต้มคัพเพิ่มอีก 3 รสชาติใหม่ โดยใช้ข้าวหอมมะลิแท้ 100% เป็นข้าวเต็มเมล็ด ไขมันต่ำ เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังได้ขยายโปรดักต์ไลน์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า OK ที่ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จากเดิมที่เป็นซองให้เป็นแบบ Cup ใหญ่ซึ่งใช้นวัตกรรมฝา 2 ชั้นสำหรับบะหมี่แบบแห้งที่ช่วยให้เทน้ำออกได้สะดวก สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น โดยจะจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.sahapatdelivery.com รวมถึงห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไป นอกจากนี้ มาม่า OK ยังมีแผนที่จะโปรโมตสินค้าใหม่ ทั้งทาง Above the line และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์มาม่า OK ที่เป็นวัยรุ่น โดยเนื้อหาจะเน้นสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคทราบถึงการออกสินค้าใหม่ที่เป็นแบบถ้วย และวิธีการทำมาม่าแห้งแบบถ้วยที่สะดวกและรวดเร็ว” นายเวทิตกล่าว
นอกจากนั้น มาม่ายังได้จัดแคมเปญใหญ่แห่งปี “มาม่าคัพเปิดรหัสคัพลุ้นขับ MG” ร่วมกับบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ MG ซึ่งคาดการณ์ว่าแคมเปญนี้จะสามารถเพิ่มยอดขายมาม่าคัพได้ 20% โดยมาม่าได้ทุ่มงบประมาณกับแคมเปญนี้กว่า 50 ล้านบาท เพื่อคืนกำไรให้ผู้บริโภคได้ลุ้นรางวัลใหญ่ คือ รถยนต์ New MG Zs มูลค่า 789,000 บาท รวม 3 คัน และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท โดยสินค้ามาม่าที่ร่วมรายการ ได้แก่ มาม่าคัพ มาม่าออเรียนทัลคิตเชนคัพ มาม่าโจ๊กคัพ และข้าวต้มคัพ เฉพาะรุ่นที่มีรายการโปรโมชันข้างถ้วย