จับตายกเลิกบัตร Fast Track หวั่นกลุ่มเสียผลประโยชน์ตอบโต้ ลดเจ้าหน้าที่ ตม.ป่วนบริการ หลังทอท.ประกาศ 1 ก.ค.ส่งเจ้าหน้าที่คุมทางเข้าช่อง Premium Lane ตรวจบัตรโดยสารให้เฉพาะชั้นหนึ่ง หรือชั้นธุรกิจ และผู้โดยสารตามระเบียบเท่านั้น สายการบินวอนให้บริการด้วยความโปร่งใส
จากที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ได้นำเสนอข่าวกระบวนการขายบัตร Premium Lane (Fast Track) นอกระบบเพื่อให้ใช้ผ่านช่องทางพิเศษ (Priority Lane) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยขายผ่านบริษัททัวร์ ทำให้ผู้โดยสารทั่วไป ตั้งแต่ 200 บาท/ใบ ไปจนถึง 900-1,000 บาท ให้สามารถใช้ช่องทาง Premium Lane ได้ ซึ่งผิดเงื่อนไขและระเบียบ ขณะที่บัตร Fast Track ดังกล่าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้แต่งตั้งให้บริษัท บริษัท VFS Global Group จำกัด เป็นผู้จัดพิมพ์ และขายให้กับสายการบินที่มีบริการผู้โดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ โดยเพิ่มราคาจากใบละ 18 บาท เป็น 35 บาท
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยต่อ “ผู้จัดการรายวัน 360 องศา” ว่า จากที่คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) ได้มีหนังสือถึง ทอท.ให้แก้ปัญหาการใช้บัตร Fast Track ที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ และขอให้กวดขันการให้บริการช่องทางพิเศษ (Priority Lane)
ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 เป็นต้นไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีการกวดขันการใช้ช่องทางพิเศษ (Priority Lane) โดยจะให้บริการเฉพาะผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารชั้นหนึ่ง หรือชั้นธุรกิจ หรือผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษเท่านั้นโดยแนวทางปฏิบัติ จะจัดเจ้าหน้าที่ของ ทอท.ประจำหน้าช่องทาง Priority Lane ทั้งขาเข้า และขาออก เพื่อตรวจบัตรโดยสาร หากไม่ใช่ชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ หรือผู้โดยสารที่เป็นไปตามระเบียบจะไม่สามารถเข้า Priority Lane ได้
ทั้งนี้ เดิมสายการบินได้ทำสัญญาการใช้บัตร Premium Lane เพื่อบริการสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง หรือ ชั้นธุรกิจ ซึ่งมีสมาชิกที่เข้าร่วมประมาณ 60 ราย แต่พบว่ามีบางสายการบินที่ไม่มีบริการชั้นหนึ่ง หรือชั้นธุรกิจ มีเฉพาะชั้นประหยัด (Economy) เข้ามาใช้ Priority Lane ซึ่งนอกจากผิดระเบียบแล้ว ยังทำให้ผู้โดยสาร Priority Lane มีจำนวนมากจนเกิดความแออัดกว่าช่องทางผ่านปกติเสียอีก
“เรื่องนี้ผมได้หารือกับผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบ.สตม.) คนใหม่แล้วว่าจะดำเนินการเข้มงวด ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือทาง ตม.ในการจัดเจ้าหน้าที่นั่งประจำเคาน์เตอร์ให้เพียงพอ ไม่ให้กระทบต่อการให้บริการ เนื่องจากปริมาณผู้ใช้ Priority Lane ที่ผ่านมาจำนวนกว่า 2 แสนคนต่อเดือน”
@จับตากลุ่ม ตม.เสียผลประโยชน์ เล่นแง่ ลดเจ้าหน้าที่ ป่วนบริการ
รายงานข่าวแจ้งว่า บัตร Fast Track ได้สร้างผลประโยชน์มหาศาลให้แก่ผู้ที่อยู่ในกระบวนการ มีเม็ดเงินจากการขายบัตรนอกระบบอย่างน้อย 40-50 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนสายการบินที่ไม่มีบริการชั้นหนึ่งหรือ ชั้นธุรกิจ ได้ยกระดับบริการชั้นประหยัดเป็น Eco- Premium โดยพ่วงบัตร Fast Track ขายในราคาตั้งแต่ 200 ไปจนถึง 1,000 บาทต่อคน
การถูกเปิดเผยข้อมูล ตีแผ่ทุจริตบัตร Fast Track เป็นการทุบหม้อข้าวของผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการขายบัตร Fast Track ผี เมื่อถูกร้องเรียน ทอท.จึงได้ปรับบทบาท หันมาตรวจบัตรโดยสารอย่างเข้มงวด จากเดิมที่จะมีพนักงานของบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่ ตม.ว่าจ้างเข้ามาดำเนินการปรับปรุงระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล เป็นผู้ดำเนินการตรวจบัตรโดยสาร
เท่ากับบัตร Fast Track จะไม่มีความหมายอีกต่อไป เนื่องจากผู้โดยสารแสดงเพียงบัตรโดยสารเพื่อยืนยันการใช้ Priority Lane ได้ ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 62 ที่ ทอท.ประกาศตรวจบัตรเข้มงวด ทาง ตม. กลุ่มที่เสียผลประโยชน์ อาจจะมีการปรับลดเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ โดยเฉพาะผู้โดยสารขาออก เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารของสายการบินไม่ได้รับความสะดวก
ขณะที่สายการบินต่างๆ ที่มีผู้โดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจ ต่างยอมรับว่ากังวลในกระแสข่าวที่ ตม.จะลดเจ้าหน้าที่นั่งเคาน์เตอร์ หลังจากมีการยกเลิกใช้บัตร Fast Track ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารชั้นหนึ่งหรือชั้นธุรกิจไม่ได้รับความสะดวอย่างมาก โดยระบุว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนมากเดินทางเข้าออก ดังนั้น หน่วยงานที่ให้บริการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องควรมีจิตสำนึกในการบริการด้วยความโปร่งใส เพื่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
แหล่งข่าวจากสนามบินสุวรรณภูมิให้ข้อมูลว่า แรกเริ่ม สายการบิน โดย AOC ได้ตกลงที่จะจัดทำบัตร Fast Track ผ่านทาง Priority Lane เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารชั้นหนึ่ง หรือชั้นธุรกิจ โดยสายการบินจ่ายค่าบัตรในราคาใบละ 18 บาท ซึ่งนอกจากเป็นค่าพิมพ์บัตรแล้วยังเป็นค่าอาหารสำหรับเจ้าหน้าที่ ตม.ที่มาให้บริการด้วยเพื่อช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดิน โดยจะให้สายการบินเบิกบัตรไปก่อน และจ่ายเงินตามจำนวนบัตรที่ใช้จริง ซึ่งมีความยุติธรรมโปร่งใส
ต่อมามีขบวนการพิมพ์บัตรผี ขายทัวร์ ผู้โดยสารทั่วไป และถูกเปิดโปงไปเมื่อปี 61 ต่อมาช่วงต้นปี 62 ทางตม.ได้ฟื้นบัตร Fast Track ผ่านทาง Priority Lane โดย ตม.เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอง ในราคาใบละ 35 บาท ขณะที่มีข้อสงสัยว่า ตม.ใช้อำนาจหรือกฎหมายใดในการขายบัตรดังกล่าวและมีการให้บริการช่องทาง Priority Lane ผิดระเบียบของสนามบินอีกด้วย
ขณะที่รูปแบบใหม่ สายการบินจะต้องจ่ายค่า บัตร Fast Track ตามจำนวนที่เบิกไปทันที ใช้หมดหรือไม่หมดคืนไม่ได้ เป็นการเพิ่มภาระต้นทุน
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการยกเลิกบัตร Fast Track ครั้งนี้ว่าจะเกิดการโต้ตอบจากผู้เสียผลประโยชน์อย่างไร และ ทอท.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ผู้บริหารสนามบิน จะบริหารจัดการและแก้ปัญหาได้อย่างไร