กรมขนส่งฯ- ตำรวจ ดีเดย์ 1 ต.ค.62 ใบสั่งค้างจ่าย ต่อภาษีประจำปีไม่ได้ แนะจ่ายค่าปรับพร้อมภาษีที่ขนส่ง ไร้ปัญหา และเร่งออกเกณฑ์ตัดแต้มใช้ปลายปี ย้ำกม.เข้มเพื่อปลุกจิตสำนึก ลดสถิติอุบัติเหตุบนถนน
กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าการเชื่อมโยงระบบใบสั่งจราจร (PTM) ย้ำ!!! เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
เน้นให้เคารพกฎจราจร และสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนร่วมกัน
วันนี้ (29 พ.ค. ) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้แถลงความคืบหน้าการเชื่อมโยงระบบใบสั่งจราจร (PTM) ตามที่ได้มีทดลองทดสอบการเชื่อมระบบอายัดทะเบียนรถเมื่อมาชำระภาษีรถประจำปี กรณีที่ประชาชนค้างชำระค่าปรับการกระทำความผิดเกี่ยวกฎหมายจราจร เมื่อวันที่ 24 พ.ค
2562 ที่ผ่านมา
โดยนางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขบ.ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดตั้งคณะทำงานร่วมพร้อมประชุมหารือกันอย่างใกล้ชิด ในการพัฒนาระบบในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์แบบออนไลน์ เพื่อให้ทั้งสองหน่วยงานเชื่อมโยงข้อมูลและใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบการกระทำความผิดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และมีความพร้อมในการให้บริการประชาชน
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 ในการชำระถาษีรถประจำปีนั้น สำหรับกรณีที่มีใบสั่งตามกฎหมายจราจร แต่ยังไม่ได้ชำระค่าปรับ เมื่อถึงคราวชำระภาษีรถประจำปี สามารถชำระค่าปรับพร้อมชำระภาษีรถประจำปีได้ในคราวเดียวกันได้ โดย ขบ.จะดำเนินการบันทึกข้อมูลการชำระค่าปรับในระบบซึ่งเชื่อมโยงกับระบบใบสั่งจราจร ทำให้มีผลเช่นเดียวกันการชำระค่าปรับกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถจึงได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ตามปกติ
ส่วน กรณีที่ ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถคันที่มีใบสั่งตามกฎหมายจราจร แต่ยังไม่พร้อมชำระค่าปรับในคราวเดียวกัน ขบ. จะยังคงอำนวยความสะดวกให้สามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ แต่จะได้รับหลักฐานแสดงการเสียภาษีประจำปีชั่วคราว ซึ่งมีอายุ 30 วันนับแต่วันที่นายทะเบียนออกให้เท่านั้น และ หากเจ้าของรถชำระค่าปรับจราจรเรียบร้อยแล้วสามารถนำหลักฐานใบเสร็จการชำระค่าปรับมาแสดงที่ขบ. เพื่อรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ฉบับจริงได้ในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ชำระภาษีประจำปีแล้ว แต่ไม่ชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาตามที่กำหนด เป็นอำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ (สตช.) แจ้งนายทะเบียน กรมการขนส่งทางบก ให้งดออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีสำหรับรถคันนั้น และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไป
"ขบ.และ ตำรวจ ได้ทำงานร่วมกันในการเชื่อมระบบข้อมูล และได้สรุปที่จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่1 ต.ค.2562 เป็นต้นไป ซึ่งกรณีรถที่มีใบสั่งจราจร สามารถชำระค่าปรับตามใบสั่ง พร้อมจ่ายภาษีประจำปี ได้ทันที แต่หากไม่ชำระค่าปรับจราจร ขบ.จะรับชำระภาษี แต่จะออกเป็นใบแทนป้ายวงกลม ชั่วคราว 30 วัน เพื่อให้เวลาในการดำเนินการด้านใบสั่งให้เรียบร้อยแล้วกลับมารับป้ายวงกลม เพราะหากเพิกเฉย กรณีไม่มีป้ายวงกลมแสดง จะมีความผิดตามพ ร.บ.รถยนต์ โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท"
ด้านพล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การบังคับดังกล่าว เป็นไปการดำเนินการตามพ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 แก้ไขโดยคำสั่ง คสช.ที่ 14/2560 ระบุในมาตรา 141/1 ให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย กรณีมีผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ ได้รับใบสั่ง ต้องชำระค่าปรับตามกฎหมาย กรณีไม่ชำระค่าปรับ และมาต่อภาษีประจำปีจะได้รับใบชั่วคราว ซึ่งให้ดำเนินการชำระค่าปรับจราจร หรืออุทธรณ์ เรื่องใบสั่ง ตามขั้นตอนภายใน 30 วัน
เนื่องจากประเทศไทย มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและเสียชีวิตสูงมาก โดยกว่า 45% สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมผู้ขับขี่ที่ไม่เคารพกฎจราจร ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ออกมา และการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ลดอุบัติเหตุในภาพรวมลงปี 2561 มีการออกใบสั่งในระบบ 11,820,225 ใบ โดยมีผู้ชำระค่าปรับเพียง 2,870,480 ใบ หรือ 80% ทำผิดซ้ำ หรือผิดแล้วไม่ชำระตามกฎหมาย
ปี 2562 สถิติถึงเดือน พ.ค.62 มีการออกใบสั่งในระบบ 7,083,002 ใบ โดยมีผู้ชำระค่าปรับเพียง 1,132,015 ใบ หลืออีก 84% ไม่มาชำระค่าปรับ
"เมื่อบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 62 นี้ จะมีผลย้อนหลัง 1 ปี สำหรับใบสั่งที่ออกตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.61 จะต้องชำระค่าปรับก่อนชำระภาษีประจำปี โดยในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ของ2 หน่วยงานจะทำความเข้าใจร่วมกะนในรายละเอียด และประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงการเพิ่มช่องทางการชำระค่าปรับใบสั่ง เช่น ชำระได้สถานีตำรวจทุกแห่ง ธนาคาร แออพลิเคชั่น และเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยจะมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ให้ประชาชนเข้าใจ ไม่สับสน รวมถึงทดสอบระบบให้มีประสิทธิภาพ"
และจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2562 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12 ) พ.ศ. 2562 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ใน120 วัน นับจากวันประกาศ หรือตรงกับวันที่ 20 ก.ย. 2562 นั้น ซึ่งจะต้องออกข้อบังคับกำหนดประกาศระเบียบต่างๆ ขบ.และ เช่น การบันทึกคะแนนความประพฤติกรรมผู้ขับขี่ เกณฑ์การตัดแต้ม , การเพิ่มโทษ เกณฑ์การยึด หรือพักใช้ใบขับขี่ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจะตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อออกระเบียบ ให้มีผลบังคับใช้ไม่เกิน 90 วัน นับจากประกาศ พ.ร.บ.ใหม่ หรือภายในวันที่ 19 ธ.ค.2562
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบดังกล่าวร่วมกันเป็นมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก มีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เน้นให้เคารพกฎจราจร ให้มีวินัยขับขี่ ไม่ต้องการให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้รถทั่วไป สามารถดำเนินการชำระภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ