กลุ่มพลังงานหมุนเวียน “สอท.” เล็งเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ หวังเคลียร์นโยบายรับซื้อไฟฟ้าให้เดินต่อเนื่องไม่สะดุดเช่นปัจจุบันที่รัฐหยุดซื้อไฟชีวมวลแบบกะทันหันมาแล้ว 3 ปี
นายนที สิทธิประศาสน์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ส.อ.ท.เตรียมที่จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่หลังฟอร์มทีมรัฐบาลแล้วเสร็จ เพื่อขอความชัดเจนถึงนโยบายด้านพลังงานที่ต้องการความต่อเนื่องไม่สะดุดเช่นที่ผ่านมาที่รัฐหยุดรับซื้อไฟฟ้าชีวมวลใหม่ๆ เข้าระบบเป็นเวลาแล้ว 3 ปี รวมถึงแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP 2018)
“เราไม่ได้กังวลว่ารัฐจะหยุดซื้อไฟกี่ปีแต่ต้องการให้นโยบายต่อเนื่องและชัดเจนไม่ใช่ลงทุนอยู่แล้วบอกหยุด และการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนบางประเภทไม่ควรมองในแง่ของราคาค่าไฟแต่ควรมองในมิติของเศรษฐกิจที่จะสร้างเม็ดเงินให้กับชาวบ้านและท้องถิ่นด้วย เช่นโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เกี่ยวข้องกับฟางข้าว ไม้ หรือพืชผลทางการเกษตรที่เหลือใช้ และกรณีของชีวภาพที่ค้างท่ออยู่ราว 50-60 เมกะวัตต์ที่เอกชนมีอยู่ก็น่าจะเปิดรับซื้อแทนที่จะทิ้งไป” นายนทีกล่าว
ทั้งนี้ ภายใต้พีดีพีใหม่จะรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในส่วนของเชื้อเพลิงชีวมวลในปลายแผนปี 2580 จำนวน 4,700 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายราว 2,000 เมกะวัตต์ และจะทยอยหมดอายุลงเหลือประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ในปี 2580 ดังนั้น จะมีปริมาณรับซื้อเพิ่มอยู่ที่ราว 3,500 เมกะวัตต์ แต่ 3 ปีมานี้ก็ยังไม่เปิดรับซื้อโครงการใหม่ ขณะที่ลมจะรับซื้อเพิ่มอีก 1,500 เมกะวัตต์แต่จะเป็นปลายแผน ซึ่งระหว่างนี้ควรจะเปิดบ้างเพื่อให้เกิดการพัฒนานวัตกรรม เป็นต้น
“หากจะดูแลผู้ผลิตไฟจากโรงไฟฟ้าชีวมวลในช่วงที่รัฐหยุดรับซื้อไฟฟ้าควรเปิดให้บุคคลที่สามเข้ามาใช้โครงสร้างพื้นฐานซื้อขายไฟฟ้า (Third Party Access : TPA) หรือเปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า เพื่อปลดล็อกให้เกิดการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานเอกชนกับเอกชน (Private PPA) ได้ ซึ่งจะทำให้เอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อซื้อขายกันเองได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องรอให้รัฐเปิดโครงการรับซื้อไฟฟ้า และกรณีที่รัฐจะเปิดซื้อไฟในรูปแบบประมูลราคาหรือบิดดิ้งได้ไม่ขัดข้อง แต่เห็นว่าควรกำหนดประเภทให้แข่งขันในเชื้อเพลิงเดียวกัน” นายนทีกล่าว