xs
xsm
sm
md
lg

สนข.วางระบบขนส่งสาธารณะเมืองอีอีซีเชื่อมสถานี “ไฮสปีด-ทางคู่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สนข.ศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะพื้นที่จังหวัด EEC เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เชื่อมเขตชุมชน แหล่งท่องเที่ยว แหล่งอุตสาหกรรม และเมืองใหม่ กับสถานีรถไฟทางคู่ และไฮสปีด

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดประชุมสัมมนาและรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 1 โครงการศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีเรือโท ศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานซึ่งมีผู้แทนจากจังหวัดชลบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดระยอง หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมการประชุมสัมมนา จำนวนประมาณ 120 คน เพื่อเผยประชาสัมพันธ์และรับฟังข้อคิดเห็น ตลอดจนข้อเสนอแนะจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมในอนาคตต่อไป


ทั้งนี้ เนื่องจากจังหวัดชลบุรีถือเป็นจังหวัดหนึ่งในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทั้งในเชิงงบประมาณ และขนาดพื้นที่ รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกด้วยการวางแผนลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และการลงทุนขนาดใหญ่ของภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 โครงการหลักที่รัฐบาลจะเร่งรัดการก่อสร้างให้เห็นผลเป็นรูปธรรมเร็วที่สุด

ประกอบด้วย 1. โครงการขยายท่าอากาศยานอู่ตะเภา 2. โครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมต่อ 3 สนามบิน 3. โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือสัตหีบ และท่าเรือมาบตาพุด และ 4. โครงการรถไฟทางคู่สายภาคตะวันออกที่จะต่อไปถึงจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราดในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาอื่นๆ อีกหลายโครงการที่จะเกิดขึ้นตามมาในพื้นที่ 3 จังหวัดในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จึงส่งผลให้เมืองมีการเจริญเติบโตไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีการใช้ประโยชน์พื้นที่สองข้างทางหนาแน่น ซึ่งการเดินทางส่วนใหญ่ของประชาชนในพื้นที่เป็นการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคล เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะที่ให้บริการในพื้นที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งในการขนส่งสินค้ายังคงพึ่งพาระบบการขนส่งทางถนนเป็นหลัก ในขณะที่ความสามารถการรองรับของถนนมีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้เกิดปัญหาการจราจรคับคั่ง และความแออัดในการสัญจรในเขตเมืองและแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆ

ที่ประชุมครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีมติเห็นชอบให้ สนข.เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการจัดทำแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ รวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งระบบรองของเมืองพัทยาเพื่อเชื่อมสถานีรถไฟความเร็วสูง ภายใต้แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ตามแผนงานการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

สนข.ได้ดำเนินการศึกษาจัดทำแผนแม่บท การพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีแนวคิดที่สำคัญในการคัดเลือกระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสม

ประกอบด้วย 1. สอดคล้องกับปริมาณความต้องการในการเดินทางของประชาชน 2. ระบบต้องมีค่าลงทุน ค่าดำเนินการ และค่าบำรุงรักษา ที่เหมาะสม 3. สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ทางกายภาพ มีประสิทธิภาพ (Transport Efficiency) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transport) และทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม (Inclusive Transport) 4. ส่งเสริมให้ท้องถิ่นและเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน 5. สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ สนข.ได้กำหนดเป้าหมายของโครงการให้ได้แผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในระดับภูมิภาคและระดับเขตเมืองในพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่สามารถเชื่อมโยงจุดสำคัญของการเดินทางทั้งเขตชุมชน แหล่งท่องเที่ยว แหล่งอุตสาหกรรม และเมืองใหม่ ให้เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในอนาคตแบบไร้รอยต่อ และต้องตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนในพื้นที่ 3 จังหวัด


กำลังโหลดความคิดเห็น