xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.ปฏิเสธใบสั่งปิด 20-30 บริษัทย่อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปตท.ปฏิเสธปิดบริษัทย่อย 20-30 บริษัท ตามคำสั่งนายกฯ เหตุบริษัทดำเนินธุรกิจไปไม่รอด เผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/62 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาส 1/62 หลังค่าการกลั่นขยับตัวสูงขึ้น พร้อมรับมือผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีสั่ง ปตท.ปิดบริษัทลูก 20-30 บริษัท เนื่องจากดำเนินการไม่สอดคล้องภารกิจรัฐวิสาหกิจว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ไม่มีใครสั่งให้ ปตท.ปิดบริษัทลูกได้ ปตท.ดำเนินธุรกิจมา 40 ปี บางบริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปไม่ได้ก็ต้องปิดไปเพื่อไม่ให้เป็นภาระ รวมถึงบริษัทที่ดำเนินธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย โดยบริษัทฯ ยืนยันว่าการเปิดและปิดบริษัทในเครือเป็นไปตามเหตุผล

ยืนยันว่าทาง ปตท.มีการปิดบริษัทน้อยกว่าการเปิดบริษัทใหม่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจต้นน้ำ คือ สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ธุรกิจก๊าซฯก็มีการเปิดบริษัทใหม่เพิ่มมากขึ้น


ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 2/2562 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงไตรมาส 1/2562 แม้ว่าปีนี้จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน แต่ก็จะพยายามให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด โดยในช่วงไตรมาส 2-4 นี้คาดว่าส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบ (สเปรด) ปรับตัวดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 4/2561


ส่วนสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีนนั้น ยอมรับว่ากลุ่ม ปตท.เริ่มได้รับผลกระทบแล้วจากส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติกกับวัตถุดิบ คือ แนฟทา (สเปรด) ได้ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วางแผนรับมือด้านการตลาด โดยไม่พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง แต่หันไปทำตลาดแอฟริกา อินเดีย และตะวันออกกลาง รวมทั้งหันมาผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลง


สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2562 ปตท.มีกำไรสุทธิ 2.93 หมื่นล้านบาท ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.97 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายบริษัทฯ วางไว้ เพราะเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 4/2561 บริษัทมีกำไรเติบโตสูงขึ้นราว 50%


กำลังโหลดความคิดเห็น