xs
xsm
sm
md
lg

เวิลด์ ฟูดส์ฯ ปั้น “เมจิโกะ” ลุยสแน็กข้าวเกรียบผสมผัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน 360 - เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล รุกตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเต็มตัว หลังกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้เติบโตต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ส่งข้าวเกรียบผสมผัก ตรา “เมจิโกะ” ลุยตลาด พร้อมสั่งเครื่องจักรเพิ่มกำลังผลิต

นางสาวกัญญา ติลกเรืองชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2562 นี้ว่า เวิลด์ ฟูดส์ฯ มีแผนงานจะมุ่งเน้นขยายตลาดและต่อยอดกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวให้มากขึ้น ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมของบริษัทตั้งแต่ก่อตั้งปี พ.ศ. 2537 และเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ยังคงสร้างรายได้ให้บริษัทมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก

นอกเหนือจากการขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ “เจ-มิกซ์” และ “เอ็ม-จอย” ซึ่งบริษัทเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว และมีแผนจะขยายช่องทางตลาดเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มขนมขบเคี้ยวของเวิลด์ ฟูดส์ฯ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตรา “โปเตโต้” ผลิตภัณฑ์ข้าวโพดอบกรอบ ตรา “ปาริ ปาริ” ข้าวโพดอบกรอบสอดไส้ช็อกโกแลต ตรา “จัมโบ้ช็อกมิกซ์” และข้าวโพดอบกรอบสอดไส้นม ตรา “จัมโบ้มิลค์กี้” และล่าสุด ข้าวเกรียบผสมผัก ตรา “เมจิโกะ (MAJIKO)”

“การขยายฐานตลาดกลุ่มขนมขบเคี้ยวครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมยอดขายให้กับบริษัทเติบโตขึ้น เพราะเป็นสินค้าที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายเดียวกันกับผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำผลไม้ของบริษัทช่วยกันดันยอดขาย โดยจุดขายที่ทำให้ขนมของเราสามารถครองใจผู้บริโภคมายาวนาน คือ สินค้าอร่อย สะอาด คุณภาพดี และราคาย่อมเยา จะเห็นได้ว่าเราขายขนมแป้งมันฝรั่งทอดกรอบบรรจุซองราคา 5 บาทมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 จนถึงปัจจุบันก็ยังคงราคา 5 บาท เพราะเราใช้กลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุน โดยไม่ลดคุณภาพของสินค้า” นางสาวกัญญากล่าว และเสริมว่า

ในปีนี้ เวิลด์ ฟูดส์ฯ จึงมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตและขยายฐานลูกค้าในส่วนของผลิตภัณฑ์กลุ่มขนมขบเคี้ยวให้กว้างขึ้น เรารู้ว่าตลาดนี้ยังเติบโตได้อีกมาก แต่ที่ผ่านมากำลังการผลิตไม่เพียงพอ เราจึงได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรบรรจุขนมใหม่ 2 สายการผลิต ซึ่งเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ มูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นกว่า 33% จากก่อนหน้านี้ ทำให้กำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 200,000 ซองต่อวัน

ปัจจุบันข้าวเกรียบผสมผัก ตรา “เมจิโกะ” (MAJIKO) มี 2 รสชาติ คือ ข้าวเกรียบผสมแครอท รสมะเขือเทศ แบบซอง มี 2 ขนาด คือ ซองเล็ก ขนาด 28 กรัม ราคา 20 บาท และซองใหญ่ ขนาด 55 กรัม พร้อมซิปล็อก ราคา 35 บาท และแบบกระป๋อง ขนาด 55 กรัมราคา 49 บาท ข้าวเกรียบผสมผักเซอเลอรี รสวาซาบิ แบบซองซิปล็อกขนาด 55 กรัม ราคา 35 บาท วางจำหน่ายทางโมเดิรน์เทรดที่ ฟู้ดแลนด์ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้าน DAISO ทุกสาขา และจำหน่ายผ่านออนไลน์อย่าง LAZADA สำหรับซองเล็กขนาด 28 กรัม จำหน่วยผ่านเทรดิชันนัลเทรด ร้านค้าทั่วไปทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย เวิลด์ ฟูดส์ฯ มั่นใจว่า “เมจิโกะ” จะกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้แก้บริษัทฯ โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ

ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์เมจิโกะไว้ที่ประมาณ 10 ล้านบาท จากสัดส่วนขนมขบเคี้ยวทั้งกลุ่มของบริษัทที่ 50 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานของปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายโดยรวมประมาณ 400 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มน้ำผลไม้ 300 ล้านบาท กลุ่มขนมขบเคี้ยว 50 ล้านบาท กลุ่มส่วนประกอบที่เป็นวัตถุดิบหลักของผลิตภัณฑ์ 50 ล้านบาท และในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 20-25% โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 520 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มน้ำผลไม้ 400 ล้านบาท กลุ่มขนมขบเคี้ยว 60 ล้านบาท และกลุ่มวัตถุดิบ 60 ล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น