คมนาคมสั่ง ร.ฟ.ท.เร่งแยกหนี้ ค่าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแอร์พอร์ตลิงก์ กว่า 2.25 หมื่นล้าน ชง ครม.จัดงบเคลียร์หนี้ เร่งปิดบัญชี ก่อนปรับโครงการให้เอกชน 3 สนามบินรับบริหาร
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการชำระหนี้โครงการ แอร์พอร์ต เรลลิงก์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า ได้หารือกับผู้แทนกระทรวงการคลัง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการชำระหนี้โครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561 ที่เห็นชอบให้รัฐบาลรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานของโครงการแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เป็นจำนวนเงิน 22,558.06 ล้านบาท
โดยค่าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ เสา ตอม่อ ราง สถานี เป็นต้น ซึ่งรฟท.จะต้องแจกแจง รายละเอียดยอดหนี้แต่ละรายการ อีกทั้งพบว่าหนี้มาจากหลายแหล่ง และหลายรูปแบบ ทั้งเงินกู้ระยะยาว พันธบัตร รวมถึงระยะเวลาการกู้ไม่เท่ากัน ซึ่งได้ มอบหมายให้ ร.ฟ.ท.จัดทำรายละเอียดของรายการหนี้และหารือร่วมกับ สำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณาแนวทางในการชำระหนี้ และจัดสรรงบประมาณให้การรถไฟฯ ชำระหนี้ต่อไป
ทั้งนี้ ได้เร่งให้ ร.ฟ.ท.สรุปเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อนำเสนอคณะกรรมการ(บอร์ด)รฟท.และกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอ ครม.ต่อไป เพราะควรเคลียร์หนี้ปิดบัญชี การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เรียบร้อย เนื่องจากจะมีผู้บริหารโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เข้ามารับโครงการไปบริหาร
“ตอนนี้กรอบยอดหนี้ชัดเจนแล้ว แต่ ร.ฟ.ท.ต้องแจกแจง รายละเอียดหนี้แต่ละรายการ และยอดหนี้แต่ละแหล่ง เพื่อให้ทางสำนักงบและคลัง พิจารณาแนวทาการชำระหนี้ ซึ่งตามมติ ครม.รัฐจะต้องรับภาระหนี้ส่วนนี้ให้ จึงต้องเร่งสรุปเสนอครม.เพราะเมื่อมีรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน จะไม่มีแอร์พอร์ตลิงก์แล้ว”
ด้านนายเอก สิทธิเวคิน รองผู้ว่าฯ กลุ่มอำนวยการ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า เงินค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ มี 15 รายการ วงเงินรวม 32,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นเงินที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ 22,558.06 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะรับภาระชำระหนี้ ทั้งนี้ หนี้แต่ละรายการมีระยะเวลาชำระหนี้ตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปี 2574 แบ่งเป็น พันธบัตร 12 รายการ วงเงินรวม 25,000 ล้านบาท และเงินกู้ระยะยาว 3 ราย วงเงิน 7,000 ล้านบาท