xs
xsm
sm
md
lg

“studio 360” ผุดร้านสเตชันเนอรี่ไลฟ์สไตล์ ชูจุดต่างสินค้า-บริการ-ลุยออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


studio 360 รุกตลาดเครื่องเขียนในไทย ผุดรีเทลชอปโมเดลใหม่แห่งแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชูสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ดังทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมบริการที่โดดเด่นและแตกต่างตอบโจทย์ลูกค้าบุคคลและลูกค้าองค์กร (B2C & B2B)

นางสาวณิชมน ดำรงค์กิจการ และ นางสาวธัญชนก เจริญวิสุทธิวงศ์ ผู้ถือหุ้นและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สตูดิโอ ทรี ซิกซ์ตี จำกัด ร่วมกันเปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้ไลฟ์สไตล์หรือพฤติกรรมการใช้สินค้าของผู้บริโภคคนไทยมีความใกล้เคียงและเป็นไปตามเทรนด์ในต่างประเทศอย่างมากหรือกล่าวได้ว่าแทบจะไม่ห่างกันนัก ซึ่งในธุรกิจวงการเครื่องเขียน หรือสเตชันเนอรี่ (Stationery) ก็มีแนวโน้มเดียวกัน ขณะนี้ธุรกิจเครื่องเขียนแบบไลฟ์สไตล์ในต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรป และเอเชียมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรามองว่าตลาดในประเทศไทยก็อยู่ในเทรนด์นี้เช่นกัน

“ด้วยเหตุผลนี้ ร้านสตูดิโอ 360 (studio360) จึงเกิดขึ้นมาจากการรวมตัวของคน 4 คนที่รักเครื่องเขียนและงานดีไซน์ เป็นกลุ่มเพื่อนสถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์ฯ 3 คน คือ “มะปราง-ณิชมน ดำรงค์กิจการ”, “ต้นว่าน-ธัญชนก เจริญวิสุทธิวงศ์” และ “ยอร์ช-ไกรวินย์ สุรีย์ชัยนิรันดร์” รวมกับพี่สาวมะปรางคือ “น้ำหวาน-ปาลีรัตน์ ดำรงค์กิจการ” ซึ่งจบด้านดีไซน์แมเนจเมนต์จากลอนดอนคอลเลจออฟแฟชั่น และทำงานในสายงานด้านรีเทล”

ทั้งนี้ ร้านสตูดิโอ 360 (studio360) สาขาแรกลงทุนประมาณกว่า 10 ล้านบาท เป็นค่าตกแต่งและสินค้าที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ บนพื้นที่ 77 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ติดกับร้านกาแฟชื่อดัง ซึ่งถือเป็นทำเลที่ดี ลูกค้าของเราส่วนใหญ่คือกลุ่มลูกค้าที่ชอบงานสร้างสรรค์ (Creative Base) และคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญต่องานดีไซน์และต้องการสินค้าดีมีคุณภาพ พร้อมบริการและคำแนะนำที่ใส่ใจเป็นพิเศษ ในราคาสมเหตุสมผล ซึ่งให้ผลตอบรับดีเกินคาด นับตั้งแต่เราเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2561

สินค้าเครื่องเขียนที่จำหน่ายนำเข้ามาจากต่างประเทศมากกว่า 20 แบรนด์ หลักๆ เช่น Kaweco, Kum และ Super 5 จากประเทศเยอรมนี - ystudio และ Twsbi จากประเทศไต้หวัน - Itoya, Helvatica, Romeo, Pentel, Pilot, Tomeo River และ Spring Spring จากประเทศญี่ปุ่น - Ballograf จากประเทศสวีเดน - Pica Pen และแบรนด์สมุดชั้นนำของไทย ZEQUENZ เป็นต้น รวมมีประมาณกว่า 3,000 เอสเคยู โดยสินค้าจะจัดเรียงแบบเน้นหรือโฟกัสสินค้าตัวใดตัวหนึ่งในเวลาจำกัด ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราจะได้โปรโมตสินค้าใหม่ๆ และทำให้ร้านไม่น่าเบื่อ

นอกจากนั้นยังมีโซน Customization ไว้บริการ เช่น Ink Bar ที่ลูกค้าสามารถออกแบบหมึกตามเฉดสีที่ต้องการ, Assemble your own Pen เป็นการจับคู่สีส่วนต่างๆ ของปากกาประกอบเป็นปากกาในแบบของคุณ และ DIY Notebook ออกแบบและประกอบสมุดในแบบที่คุณใช้งาน ตลอดจนการสลักชื่อลงบนสินค้า เป็นต้น

ร้านสตูดิโอ 360 (studio 360) ยังเป็นชุมชน หรือ community สำหรับคนรักเครื่องเขียน เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เพื่อให้คำแนะนำการใช้สินค้า เปิดให้ทดลองสินค้า และเป็น Care Center ในกรณีสินค้ามีปัญหา หรือให้คำปรึกษาในการดูแลรักษาแก่ลูกค้าทุกคน

ในอนาคตมีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าที่เป็นไลฟ์สไตล์กลุ่มอื่นเพิ่ม เช่น สินค้าแฟชั่นและแอ็กเซสซอรี (Fashion & Accessory) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มเป้าหมายปัจจุบันและอนาคต

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังไม่มีแผนขยายสาขาที่สองในระยะอันใกล้นี้ เพราะต้องการบริหารจัดการสาขาแรกที่เป็น Flagship Store นี้ให้ดีที่สุดก่อน ตลอดจนต้องการศึกษาตลาดและหาข้อมูลความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าเป้าหมายซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาให้ดี ก่อนที่จะขยายสาขาเพื่อสร้างการเติบโตในระยะต่อไป

"เรายังมีช่องทางจำหน่ายที่เป็นออนไลน์อยู่แล้วด้วย ซึ่งทำตลาดมาก่อนหน้าที่จะเปิดเป็นรีเทลชอป ซึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายพอสมควรและสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด"

“ตอนนี้กลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดมาจากออนไลน์เป็นหลัก และเรามีการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพิ่มเติมเพื่อเฟ้นหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เรายังเข้าไม่ถึง ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยการทำ Online Content อย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่า Content รูปแบบไหนที่ลูกค้าชอบ เนื้อหาแบบไหนที่ลูกค้าสนใจ โดยวางเป้าหมายว่าจะต้องมี Creative Content เพื่อสร้างความน่าสนใจ" นางสาวณิชมนกล่าว

ขณะเดียวกันก็มีแพลตฟอร์มที่เป็นชอปปิ้งออนไลน์ที่น่าสนใจหลายรายติดต่อเข้ามา แต่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งจะทำให้สินค้าเราเข้าสู่ตลาดได้ในวงกว้างขึ้นอีก รวมทั้งช่องทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) ต่างๆ ที่เราสามารถสื่อสารได้ แต่ทั้งนี้หากตลาดในต่างจังหวัดมีการเติบโตและมีแนวโน้มที่ดี บริษัทฯ ก็มีแผนที่จะขยายสาขาตามหัวเมืองใหญ่เช่นกัน

นางสาวณิชมนกล่าวต่อว่า กลยุทธ์หนึ่งที่จะทำให้เราเติบโตได้อย่างรวดเร็วคือการขายแฟรนไชส์ร้านสตูดิโอ 360 ซึ่งมองว่าน่าจะมีความเป็นไปได้ โดยมองรูปแบบการเปิดแฟรนไชส์ร้านคีออสก์ ซึ่งมีความคล่องตัว ใช้พื้นที่ไม่มาก ลงทุนไม่สูงนัก กระจายตามพื้นที่ชุมชนต่างๆ เช่น สถาบันการศึกษา อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า เป็นต้น โดยคาดว่าจะเริ่มขายแฟรนไชส์ได้ประมาณภายในอีก 2 ปีข้างหน้า

นางสาวณิชมนกล่าวว่า บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้รวมในปีแรกประมาณ 10-12 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็น ช่องทางร้านค้าหรือออฟไลน์ 60 % ช่องทางออนไลน์ 40% โดยใช้กลยุทย์การเชื่อมระหว่างลูกค้าออนไลน์กับออฟไลน์จากฐานข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่เพื่อสร้างความเติบโตในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตลาดค้าปลีกเครื่องเขียนในไทยมีการแข่งขันที่สูงจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็นเชนหลายราย และอยู่ในตลาดมานานกว่า แต่เราก็มองว่าร้านเครื่องเขียนที่ขายของดีไซน์สวยๆ เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์ในประเทศไทยยังมีไม่มากนัก เพราะร้านเครื่องเขียนในไทยส่วนใหญ่ที่มีนั้นจะออกแนวอาร์ตซัปพลาย (Art Supply) และเป็นของที่ใช้ในออฟฟิศมากกว่า แต่เรามองว่าเครื่องเขียนเป็นได้มากกว่าการใช้งาน เครื่องเขียนเป็นทั้งของสะสม เป็นสิ่งที่บ่งบอกสไตล์และตัวตนของเรา ตรงนี้คือจุดแตกต่างของร้านสตูดิโอ 360

อีกปัจจัยหลักที่มองว่าจะสามารถสู้กับตลาดได้ เพราะพื้นฐานเดิมของครอบครัวคุณณิชมนอยู่ในธุรกิจสินค้าไลน์เครื่องเขียน ทั้งเป็นผู้ผลิตและส่งออกแบรนด์ ZEQUENZ และนำเข้าสินค้าหลายแบรนด์จากต่างประเทศอยู่แล้ว ทำให้รู้ถึงแนวโน้มของสินค้า รูปแบบ และความต้องการตลาดได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเปิดร้านนี้ก็เหมือนกับการแตกไลน์ธุรกิจจากการค้าส่ง (Wholesale) มาสู่การทำค้าปลีกหรือรีเทล (Retail) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งขึ้นมา ประกอบกับหุ้นส่วนทุกคนมีศักยภาพทั้งด้านการสร้างสรรค์และการทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินค้าที่จำหน่าย เราคงไม่หยุดแค่การเป็นรีเทลเครื่องเขียนเท่านั้น แต่เราจะขยายเรื่องงานรับบริการออกแบบต่างๆ เข้าไปด้วย (Design Service) ตลอดจนการรับจัดหา (Sourcing) และผลิต (Production) เป็นต้น




กำลังโหลดความคิดเห็น