ช่วงนี้อากาศที่ว่าร้อน คงระอุยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อมีการเปิดเผยเรื่องราว "การประมูลสนามบินอู่ตะเภา" ที่ร้อนจัดจนงานอาจเข้าองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อเกิดประเด็นที่สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการจัดการประมูล ซึ่งเมื่อวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2562 สื่อดังด้านเศรษฐกิจอย่างฐานเศรษฐกิจเผยประเด็นข่าวระบุว่า “ยกแรกชิงอู่ตะเภา บีบีเอสเขี่ยทิ้งซีพี”
ประเด็นดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับหลายต่อหลายคน เพราะถือเป็น "การเขี่ยขั้นเทพ" เนื่องจากกลุ่มหนึ่งอ้างว่าอีกกลุ่มหนึ่งเรื่องส่งกล่องเอกสารการประมูลช้าจากกำหนด 15.00น. ไป 8 นาที แต่ไม่รู้ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตัวแทนข้อตกลงคุณธรรมจะตื่น และรู้เท่าทันการเขี่ยขั้นเทพอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่? ทั้งนี้ประเด็นความไม่ชอบมาพากลของการ "เขี่ยขึ้นเทพ" นั้นมีอย่างน้อย 2 ประเด็นด้วยกันคือ
ประเด็นที่ 1: การให้ผู้ยื่นซอง 3 ราย ส่งเอกสารเพิ่มใน 15 วัน
ข้อมูลชิ้นสำคัญที่มีสื่อเผยแพร่ออกมา คือ ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีมติให้ผู้ยื่นซองประมูลทั้ง 3 รายส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 15 วัน โดยกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ต้องส่งเอกสารยืนยันเกี่ยวกับการเสนอสนามบินนาริตะมาเป็น subcontractor เพื่อบริหารสนามบิน รวมถึงการบำรุงรักษา และพัฒนาสนามบิน ขณะที่กลุ่มแกรนด์คอนซอร์เตียม จะต้องนำเสนอเอกสารยืนยันประสบการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เสนอขึ้นมา ซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการขัดเอกสารเชิญชวนยื่นข้อเสนอ หรือ Request for Proposal (RFP) ที่เอกสารไม่ครบถ้วน แต่มีการเรียกเอกสารเพิ่ม ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรให้มีการเพิ่มเติมชุดเอกสาร เพราะเสี่ยงต่อการทุจริต
ประเด็นที่ 2 : บางซองต้องส่งก่อนบ่าย 3 บางซองส่งหลังได้!?!
ประเด็นร้อนเรื่องการส่งเอกสารให้ทันในเวลา 15:00น. จนถึงขนาดต้องเอากล้องวงจรปิดมาจับผิดกันเลยทีเดียว แต่ลึก ๆ แล้ววงในเผยข้อเท็จจริงว่า มีการขนเอกสารเกินเวลากันแทบทุกเจ้าจนมีสื่อออกมาจับพิรุธ และชี้ข้อมูลอ้างอิงจากนายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการด้านบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่กล่าวถึงกรณีของการยื่นประมูลโครงการร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ว่าเอกสารมีจำนวนมาก พื้นที่การจัดเก็บและการขนมีข้อจำกัด บางกล่องสำคัญก่อนบ่าย 3 บางกล่องหลังบ่าย 3 ได้ ... ก็ต้องถามว่า ทำแบบนี้ก็ได้เหรอ?
นอกจากนี้วงในยังเผยอีกด้วยว่าทุกเจ้าล้วนขนเอกสารไปพัก ณ ห้องรอ เพื่อรอการเรียกรับเอกสารทีละเจ้า ซึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการการรับเอกสารคือ 17.00น. แต่สิ่งที่ปวดตับหนักคือ กรรมการเองก็ไม่ทำตาม RFP เพราะเอกสารเยอะ โดยแทนที่จะเปิดเอกสารทันทีในเย็นวันนั้น ตาม RFP กรรมการกลับบอกว่าเอกสารเยอะ ขอเลื่อนการตรวจเป็นวันอื่น...อย่างนี้ก็มีด้วย?
สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาถือเป็นโครงการใหญ่ และบทบาทสื่อคือ การทำหน้าที่จับตาและยกประเด็นให้สังคมช่วยตรวจสอบ โดยการประมูลอู่ตะเภา นี้มีการเข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ซึ่งมีการแต่งตั้งผู้แทนจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) จำนวน 5 ท่านเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์อิสระเข้าร่วมการประชุมและการดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการ คาดว่าถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้คงมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ใช้บริการแต่หัววัน