เอ็กโก กรุ๊ปแบ่งรับแบ่งสู้จะต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP 3 โรงที่สมุทรปราการและสระบุรีหรือไม่ เผยอยู่ระหว่างเจรจาและศึกษารายละเอียด ขณะที่ “เจ เพาเวอร์” พาร์ตเนอร์เมินต่ออายุโรงไฟฟ้าเหตุไม่คุ้มการลงทุน ส่วนโรงไฟฟ้ากัลฟ์ โคเจนฯ ยันต่ออายุสัญญาขายไฟแน่นอน
แหล่งข่าวจากวงการไฟฟ้าเปิดเผยว่า ทางบริษัท เจ เพาเวอร์ (ประเทศไทย) ได้หารือกับพันธมิตรร่วมทุนคือ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป (EGCO) ว่าจะไม่ต่ออายุโรงไฟฟ้าผู้ผลิตรายเล็กประเภทพลังงานความร้อนร่วม (SPP Cogeneration) ทั้ง 3 โรง คือ โรงไฟฟ้าสมุทรปราการ โคเจนเนอเรชัน จ.สมุทรปราการ, โรงไฟฟ้ากัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น จ.สระบุรี และโรงไฟฟ้าหนองแค โคเจนเนอเรชั่น จ.สระบุรี คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 360 เมกะวัตต์ เนื่องจากเงื่อนไขการต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ไม่คุ้มการลงทุน
เนื่องจากเงื่อนไขการต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP จะตั้งสร้างโรงไฟฟ้าใหม่และทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะลดการรับซื้อไฟฟ้าลงจากเดิม 90% เหลือเพียง 30% และราคารับซื้อไฟฟ้าสอดคล้องเชื้อเพลิง เช่น ก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ 2.80 บาทต่อหน่วย ทำให้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า SPP ต้องมีลูกค้ารับซื้อไฟฟ้าเพิ่มชดเชย กฟผ.ที่รับซื้อลดลง
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 3 โรงเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างเอ็กโก กรุ๊ปถือหุ้น 50% กับ เจ เพาเวอร์ (ประเทศไทย) ถือหุ้น 49% และมิตเพาเวอร์ (ประเทศไทย) ถือหุ้น 1% ซึ่งจะทยอยสิ้นสุดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.ตั้งแต่ปี 2562-2564
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษารายละเอียดว่าจะมีการต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 3 โรงดังกล่าวข้างต้นหรือไม่ ส่วนโรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น มีความเป็นไปได้สูงที่จะต่ออายุโรงไฟฟ้า SPP โดยปัจจุบันมีการเตรียมความพร้อมอยู่
โรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 117 เมกะวัตต์ (ขายไฟให้ กฟผ. 60 เมกะวัตต์ มีเอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้น 80% และเจ เพาเวอร์ 20% โรงไฟฟ้านี้จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2567