ผู้จัดการรายวัน 360 - 'มาบุญครอง' จากข้าวถุงสู่ศึกรีเทล เล็งต่อยอดสินค้าผ่านสแน็กและเรดดี้ทูอีต พร้อมอัดอีก 100 กว่าล้านเนรมิตโรงสีเก่า พื้นที่ 80 ไร่ เป็นโปรเจกต์พักผ่อน หวังปูพรมผุดร้านอาหารบรรยากาศริมแม่น้ำ มั่นใจอนาคตกลุ่มข้าวถุงและฟูดทำรายได้ในสัดส่วนรายได้ 50% เท่าๆกัน
นายสมเกียรติ มรรคยาธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการกระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจข้าวถุงมาบุญครองของบริษัทช่วง 5 ปีที่ผ่านมายังคงให้ความสนใจในทุกด้านที่สามารถต่อยอดกับธุรกิจข้าวซึ่งเป็นธุรกิจหลักได้ ซึ่งต้องการให้ยอดขายจากธุรกิจข้าวและกลุ่มฟูดอยู่ที่ 50% เท่าๆ กันในอนาคต หรือทำให้รายได้รวมของบริษัทกลับมาทำได้ที่ 3,000 ล้านบาทเช่นปี 2559 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะตกมาอยู่ระดับ 2,000 ล้านบาท หลังจากนั้น จนตัวเลขล่าสุดในปี 2561 ที่ผ่านมามีรายได้รวมอยู่ 2,400 ล้านบาท โต 15% พร้อมกลับมามีกำไรอีกครั้งประมาณ 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการต่อยอดธุรกิจที่เห็นภาพความชัดเจนแล้ว 2 กลุ่ม คือ 1. ศูนย์อาหาร ฟู้ดเลเจ้นด์ส 2 สาขา คือ สามย่านฟู้ดเลเจ้นด์ส และที่ MBK ที่จะเปิดให้บริการช่วงกันยายน 2562 นี้พร้อมๆ กัน และ 2. ธุรกิจร้านอาหาร กับร้านอาหารญี่ปุ่น 1 สาขา และร้านสุกี้นัมเบอร์วัน 3 สาขา
อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มที่ 3 คือ อาหารพร้อมรับประทาน ไม่ว่าจะเป็น เรดดี้ทูอีต และโฟรเซนฟูด รวมถึงสแน็ก ซึ่งเป็นการพัฒนาเมนูจากร้านอาหารที่เปิดให้บริการอยู่ และจากข้าวซึ่งเป็นธุรกิจพื้นฐาน เช่น สุกี้นัมเบอร์วัน ที่ร่วมกับทาง เชฟป้อม-เชฟกระทะเหล็ก ในการพัฒนาเมนูที่ได้รับความนิยมสู่รูปแบบเรดดี้ทูอีต ที่จะมีวางจำหน่ายทั้งหน้าร้าน และช่องทางรีเทลต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทำได้แล้ว 3 เมนู ตั้งเป้าพัฒนาไว้ที่ 10 เมนู
ส่วนธุรกิจสแน็กนั้นยังมีความสนใจอยู่ และยังคงมองความเป็นไปได้ในการเข้ามาทำธุรกิจนี้ทั้งในรูปแบบ พัฒนาสินค้าสร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง และการร่วมทุนหรือซื้อกิจการต่อจากเอสเอ็มอีที่พัฒนาการแปรรูปสแน็กที่ทำจากข้าว แต่ขณะนี้ยังติดในเรื่องของขั้นตอนการเลือกผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำแพกเกจจิ้งอยู่
นอกจากนั้น ปีนี้วางแผนจะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโรงสีเก่า พื้นที่ 80 ไร่ ติดริมแม่น้ำ ย่านจังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นคาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการเพื่อพักผ่อน เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย ปั่นจักรยาน แอ็กทิวิตีทางน้ำ และกิจกรรมเอาต์ดอร์ต่างๆ เป็นต้น หลังจากนั้นในเฟสต่อไปมีแผนที่จะทำร้านอาหารริมแม่น้ำ หรืออาจจะนำเอาศูนย์อาหารฟู้ดเลเจ้นด์สไปเปิดให้บริการก็เป็นได้ โดยขณะนี้เริ่มทำการถมที่ไปบ้างแล้ว คาดว่าช่วงปลายปีนี้จะเริ่มทดลองเปิดให้บริการได้
"ธุรกิจต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นจะอยู่บนพื้นฐานของการต่อยอดสร้างรายได้จากธุรกิจข้าว ไม่ว่าจะเป็นศูนย์อาหาร ร้านอาหาร สแน็ก หรือแม้แต่การพัฒนาที่ดินโรงสีเก่า ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจข้าวถุงที่มีความผันผวนในเรื่องของราคา และเพื่อขยายธุรกิจสร้างรายได้ที่มีพื้นฐานการเติบโตที่สม่ำเสมอ โดยในปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้โตขึ้น 15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,400 ล้านบาท" นายสมเกียรติกล่าว