ผู้จัดการรายวัน 360 - คนไทยเสพติดมือถืออันดับ 1 ของโลก "ทีวีไดเร็ค" อัด 1,460 ล้านบาททรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัล บูมมาร์เกตติ้งออนไลน์ คาด 3 ปีสัดส่วนยอดขายออนไลน์แตะ 50% พร้อมรายได้เฉียด 10,000 ล้านบาท
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทพร้อมใช้งบกว่า 1,460 ล้านบาทในช่วง 3 ปีหลังจากนี้ ทั้งในเรื่องอินฟราสตรักเจอร์ และระบบธุรกิจ เน้นไปในเรื่องของทีวีโฮมชอปปิ้งเป็นหลัก ส่งผลให้ปีนี้บริษัทตัดสินใจรีแบรนดิ้งองค์กรในโอกาสครบรอบ 20 ปี และสร้างการจดจำภายใต้สโลแกนใหม่ "ชีวิตดีดี มีได้ทุกวัน" การปรับโมเดลธุรกิจและโครงสร้างองค์กร ปรับกลยุทธ์ให้สามารถรับมือกับเทรนด์ธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล เพื่อทรานส์ฟอร์มองค์กรให้ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างการเติบโต
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1. ประชากรที่มีแนวโน้มลดลง คาดว่าปี 2030 (พ.ศ. 2573) จะเป็นปีแรกที่ประเทศไทยเริ่มมีประชากรลดลง ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจจะต้องเผชิญภาวะกำลังซื้อถดถอย
2. พฤติกรรมคนไทยปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล โดยมีข้อมูลเชิงสถิติ เช่น ปัจจุบันคนไทยมีสมาร์ทโฟนกว่า 92.33 ล้านเครื่อง, มีค่าเฉลี่ยการใช้โทรศัพท์มือถือสูงที่สุดในโลก 4.53 ชั่วโมงต่อคนต่อวัน (ค่าเฉลี่ยทั่วโลก 3.05 ชั่วโมงต่อคนต่อวัน), คนไทยเล่นไลน์ 52 ล้านบัญชี, เล่นเฟซบุ๊ก 49 ล้านบัญชี, อินสตาแกรม 13.6 ล้านบัญชี, ทวิตเตอร์ 12 ล้านบัญชี ส่งผลให้ปัจจุบันมีสัดส่วนประชาชนที่รับข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์เป็นหลัก 30% ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ 15% และทางออฟไลน์เป็นหลัก 55%
ขณะเดียวกัน จากจำนวนประชากรในปัจจุบันที่มีประมาณกว่า 69 ล้านคน สามารถแบ่งโครงสร้างเป็นกลุ่มที่มีอายุไม่เกิน 24 ปีมีประมาณ 21.6 ล้านคน วัยทำงานที่มีอายุ 25-54 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย มีประมาณกว่า 31.7 ล้านคน และกลุ่มที่มีอายุ 55-64 ปีขึ้นไปซึ่งเป็นลูกค้าหลักที่มีกำลังซื้อสูง มีประมาณ 15.7 ล้านคนและเป็นกลุ่มที่ยังนิยมดูทีวี จึงทำให้การใช้สื่อแบบแมสมีเดียยังคงเข้าถึงประชาชนได้เป็นจำนวนมาก
"บริษัทจำเป็นต้องปรับองค์กรและรีโมเดลธุรกิจใหม่สู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน เน้นใช้กลยุทธ์ Omni Channel เชื่อมโยงทุกช่องทางทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และร้านค้าปลีก TVD Shop นับจากนี้ TVD จะอยู่ภายใต้แนวคิดการให้บริการ โดยไม่เป็นเพียงผู้จำหน่ายสินค้าเท่านั้น แต่จะเป็นผู้ให้บริการที่พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าไปพร้อมๆ กัน ให้เกิดการซื้อสินค้าซ้ำ โดยบริษัทได้ปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจสู่การเป็น Video Marketer ครบทั้งภาพ เสียงและคอนเทนต์ จากเดิมที่ใช้โมเดล TV Shopping"
ขณะเดียวกัน ได้ปรับโครงสร้างการบริหารเหลือ 4 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายการตลาด ฝ่าย Omni Channel และฝ่าย Operation เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจและบริหารต้นทุนด้านบุคลากรได้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีระบบซอฟต์แวร์เข้ามาใช้กับหน่วยงานคอลเซ็นเตอร์ เพื่อติดตามวัดผลการสื่อสารกับลูกค้าและนำกลับมาพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป้าหมายเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการปิดยอดขายและลดอัตรายกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า
ส่งผลให้ยอดขายจากออนไลน์คาดว่าจะโตขึ้น 48% หรือมีสัดส่วน 20% ของรายได้รวมทั้งหมด ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 50% พร้อมรายได้เฉียด 10,000 ล้านบาท หรือราว 8,000-9,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่ต้้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,800 ล้านบาท มาจากทีวีโฮมชอปปิ้ง 50% คอลเซ็นเตอร์ 10% ออนไลน์ 20% รีเทล 15% และอีก 5% มาจากเซอร์วิสต่างจากบริษัทในเครือ
และในโอกาสครบรอบ 20 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-20 ก.ย.นี้ บริษัทจัดแคมเปญ ‘TVD 20th Birthday Festival’ ฉลองครบรอบ 20 ปี ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยมีรางวัลใหญ่รถยนต์โตโยต้า ATIV มีมูลค่ากว่า 5 แสนบาท สร้อยคอทองคำ เก้าอี้นวม เป็นต้น โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบทุก 1,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรางวัล เพื่อเพิ่มยอดขายจากช่วงปกติและผลักดันยอดขายปีนี้ได้ตามเป้าหมาย
