สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จัดประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2562 ที่ประชุมมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.65 บาท นับว่าสูงสุดในประวัติการณ์ของเซ็นเทล โดยมี ศ.วิโรจน์ เลาหะพันธุ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ พร้อมด้วยกรรมการร่วมประชุมด้วย ณ ห้องโลตัสสวีท โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (เซ็นเทล) (SET : CENTEL) ประกาศแจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2562 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 ว่าอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 หุ้นละ 0.65 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 แก่ผู้ถือหุ้นที่ปรากฏรายชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2562
สำหรับปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 21,768.2 ล้านบาท เติบโต 7.0% เทียบปีก่อน กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 4,966.4 ล้านบาท เติบโต 5.6% เทียบปีก่อน จากการเติบโตทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร กำไรสุทธิจำนวน 2,177.5 ล้านบาท หรือเติบโต 9.4% เทียบปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีกำไรสูงสุดเท่าที่ดำเนินการมา
บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมไทยที่ใหญ่ที่สุด และมีแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล โดย ณ 31 มีนาคม 2562 นี้ บริษัทมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 39 โรงแรม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 7,563 ห้อง โดยเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการในประเทศไทย, มัลดีฟส์, เวียดนาม, ศรีลังกา และโอมาน นอกเหนือจากนี้ บริษัทมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 29 โรงแรม เป็นจำนวน 5,914 ห้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะทยอยเปิดดำเนินงานช่วงปี 2562-2565 ซึ่งรวมถึงโรงแรมที่ลงทุนเองแบรนด์โคซี่ จำนวน 2 โรงแรม, มัลดีฟส์ระดับ 4 ดาว 2 โรงแรม และโรงแรมร่วมทุนระดับ 4 ดาวที่ดูไบ 1 โรงแรม ส่วนโรงแรมที่รับบริหารทั้งสิ้น 24 โรงแรม ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศทั้งใน AEC, ตะวันออกกลาง และมหาสมุทรอินเดีย
นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ ยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจเครือข่ายร้านอาหาร ประกอบด้วยแบรนด์ เคเอฟซี, มิสเตอร์โดนัท, อานตี้ แอนส์, โอโตยะ, เปปเปอร์ลันช์, โคลด์สโตน, ชาบูตง, โยชิโนยะ, เทนยะ, คัตซึยะ และ เดอะ เทอร์เรซ จำนวนทั้งสิ้น 1,003 สาขา ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (เซ็นเทล) (SET : CENTEL) ประกาศแจ้งมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2562 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 ว่าอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 หุ้นละ 0.65 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 แก่ผู้ถือหุ้นที่ปรากฏรายชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2562
สำหรับปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 21,768.2 ล้านบาท เติบโต 7.0% เทียบปีก่อน กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 4,966.4 ล้านบาท เติบโต 5.6% เทียบปีก่อน จากการเติบโตทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร กำไรสุทธิจำนวน 2,177.5 ล้านบาท หรือเติบโต 9.4% เทียบปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีกำไรสูงสุดเท่าที่ดำเนินการมา
บริษัทฯ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมไทยที่ใหญ่ที่สุด และมีแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล โดย ณ 31 มีนาคม 2562 นี้ บริษัทมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 39 โรงแรม เป็นจำนวนทั้งสิ้น 7,563 ห้อง โดยเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการในประเทศไทย, มัลดีฟส์, เวียดนาม, ศรีลังกา และโอมาน นอกเหนือจากนี้ บริษัทมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 29 โรงแรม เป็นจำนวน 5,914 ห้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะทยอยเปิดดำเนินงานช่วงปี 2562-2565 ซึ่งรวมถึงโรงแรมที่ลงทุนเองแบรนด์โคซี่ จำนวน 2 โรงแรม, มัลดีฟส์ระดับ 4 ดาว 2 โรงแรม และโรงแรมร่วมทุนระดับ 4 ดาวที่ดูไบ 1 โรงแรม ส่วนโรงแรมที่รับบริหารทั้งสิ้น 24 โรงแรม ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศทั้งใน AEC, ตะวันออกกลาง และมหาสมุทรอินเดีย
นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรม บริษัทฯ ยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจเครือข่ายร้านอาหาร ประกอบด้วยแบรนด์ เคเอฟซี, มิสเตอร์โดนัท, อานตี้ แอนส์, โอโตยะ, เปปเปอร์ลันช์, โคลด์สโตน, ชาบูตง, โยชิโนยะ, เทนยะ, คัตซึยะ และ เดอะ เทอร์เรซ จำนวนทั้งสิ้น 1,003 สาขา ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562