ศาลปกครองเลื่อนออกคำสั่งร้องขึ้นค่าโดยสารรถเมล์เป็น 26 เม.ย. “คมนาคม” เผยผู้เกี่ยวข้องชี้แจงข้อมูลแล้วรอคำสั่งทางการ ยันขึ้นค่ารถเมล์ รถตู้ รถ บขส.สะท้อนตามต้นทุน และให้ผู้ประกอบการจัดหารถใหม่ ขณะที่รัฐมีบัตรสวัสดิการช่วยเหลือส่วนหนึ่ง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณีการปรับค่าโดยสาร รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถร่วมบริการ ขสมก.ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งรวมถึงรถตู้ รถสองแถว และรถโดยสาร บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และร่วมบริการของ บขส. เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2561 เป็นการพิจารณาตามผลการศึกษาโครงสร้างต้นทุนการดำเนินการ ซึ่งทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าแรง ค่าซ่อมบำรุง และปัจจัยต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้น และเงื่อนไขในการปรับปรุงบริการและการจัดหารถโดยสารใหม่
กรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ต่อศาลปกครองขอให้คำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางที่ได้อนุมัติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารดังกล่าวนั้น ซึ่งสำนักงานศาลปกครองแจ้งว่า คำสั่งจะออกเร็วที่สุดภายในวันศุกร์ที่ 26 เม.ย.นี้
สำหรับ ขสมก.นั้นเคยมีมติ กก.ขนส่งทางบกกลางเมื่อปี 2558 ให้ปรับค่าโดยสารรถร้อนเป็น 8 บาท แต่ ขสมก.เก็บจริงที่ 6.50 บาทเท่านั้น ซึ่งมติ กก.ขนส่งทางบกกลางล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2561 อนุมัติเพดาน 10 บาท ซึ่ง ขสมก.ประกาศเก็บที่อัตรา 8 บาทเท่านั้น ยังต่ำกว่าเพดานที่ได้รับอนุมัติ ส่วนรถปรับอากาศ (ครีมน้ำเงิน) มติเมื่อปี 2558 ให้เก็บที่ 12-20 บาท ขสมก.เก็บจริง 10-18 บาท มติล่าสุดให้เก็บ 13-25 บาท ขสมก.จะเก็บจริงที่ 12-20 บาทเท่านั้น
ส่วนรถยูโรปรับอากาศ มติปี 2558 13-25 บาท ขสมก.เก็บจริง 11-23 บาท ส่วนมติล่าสุดให้ที่ 14-26 บาท ขสมก.จะเก็บจริงที่ 13-25 บาท ซึ่งต่ำกว่าที่ได้อนุมัติ ทั้งนี้เพื่อบรรเทาภาระของประชาชนส่วนหนึ่ง ขณะที่รัฐบาลมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ช่วยเหลือค่าเดินทางของประชาชนส่วนหนึ่งแล้ว การปรับค่าโดยสารในครั้งนี้ อาจจะทำให้จำนวนเที่ยวของการเดินทางลดลงบ้าง ขณะที่ค่าโดยสารที่สะท้อนต้นทุนในด้านค่าเชื้อเพลิงจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงบริการและจัดหารถใหม่เข้ามาได้ เป็นการยกระดับบริการรถโดยสาร
อย่างไรก็ตาม เรื่องต้นทุนเชื้อเพลิง ทาง ปตท.จะปรับราคาขายก๊าซ NGV ลอยตัวตามมติ กบง. จากเดิมที่อุดหนุนให้ที่ 3 บาท/กก. หรือขายในราคา 16.01 บาท/กก. แต่หลังจากวันที่ 16 พ.ค. 2562 ปตท.จะทยอยปรับขึ้นไตรมาสละ 1 บาท จนถึงอัตรา 19.01 บาท/กก. ทำให้ผู้ประกอบการรถร่วมฯ เอกชนจะมีต้นทุนค่า NGV เพิ่ม
สำหรับอัตราค่าโดยสารที่ปรับขึ้นใหม่
1. รถโดยสารธรรมดา (สีครีม-แดง) ปรับราคาจาก 6.50 บาท เป็น 8 บาท และรถวิ่งตลอดคืนจาก 8 บาท เป็น 9.50 บาท
2. รถปรับอากาศ (ครีม-น้ำเงิน) ปรับราคาจาก 10-18 บาท เป็น 12-20 บาท
3. รถโดยสารปรับอากาศ (ยูโรทู สีส้ม) ปรับราคาจาก 11-23 บาท เป็น 13-25 บาท
4. รถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวี (สีขาว) ปรับราคาจาก 11-23 บาท เป็น 13-25 บาท
5. รถโดยสารปรับอากาศเอ็นจีวีรุ่นใหม่ (สีฟ้า) ปรับราคาจาก 11-23 บาท เป็น 15-25 บาท
6. กรณีรถโดยสารประจำทางที่ขึ้นทางด่วน ปรับราคาเพิ่ม 2 บาทจากราคาปกติ